IAMS TH
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในแมว
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในแมว

adp_description_block151
การฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและการดูแล

  • แบ่งปัน

โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านการถูกกัดและข่วนโดยสัตว์ที่ติดเชื้อ เนื่องจากไม่มียาในการรักษา ทางออกเดียวที่จะต่อสู้กับไวรัสร้ายแรงนี้คือการฉีดวัคซีนป้องกัน

 

วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นหนึ่งในวัคซีนหลักสำหรับแมว มันช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยให้แมวมีความเป็นอยู่ที่ดี แต่ก่อนจะพาเจ้าเหมียวไปฉีดวัคซีน เรามาทำความเข้าใจรายละเอียดของโรคและวิธีป้องกันไปด้วยกันในบทความนี้
 

โรคพิษสุนัขบ้าแพร่กระจายได้อย่างไร?

โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ ซึ่งติดต่อได้ทั้งในสัตว์และคน ไม่ใช่แค่สุนัขอย่างที่เข้าใจผิดกัน เชื้อชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลเปิด ผ่านเยื่อเมือกในตา ปาก และจมูก รวมถึงแพร่กระจายผ่านการสัมผัสน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อด้วย โดยแมวส่วนใหญ่จะแสดงอาการภายในเวลาไม่กี่วันหรืออาจใช้เวลานานถึงสองสามปีหลังได้รับเชื้อ
 

เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรง พ่อแม่แมวจึงควรเรียนรู้สัญญาณเตือนและลักษณะอาการของโรคให้ดี ซึ่งอาการที่พบได้มีดังนี้

  1. มีไข้

  2. เซื่องซึม

  3. ความอยากอาหารลดลง

  4. หายใจลำบาก

  5. น้ำลายไหลมาก

  6. กลืนลำบาก

  7. พฤติกรรมผิดปกติ

การรักษาโรคพิษสุนัขบ้าอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่มียารักษา การฉีดวัคซีนป้องกันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าแมวของคุณจะปลอดภัยจากโรคร้ายนี้
 

แมวที่เลี้ยงในบ้านจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่?

วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแมวทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพราะแมวมักจะเข้าสังคมด้วยการเลีย ดม หรือเกาตัวให้กัน แมวในบ้านจึงยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ การฉีดวัคซีนป้องกันถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่ลูกแมวจะติดเชื้อ วัคซีนจะกระตุ้นการสร้างแอนติเจนในร่างกาย ทำให้แมวสามารถรับมือกับไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าได้
 

แมวควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าบ่อยแค่ไหน?

การฉีดวัคซีนจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สายพันธุ์ และไลฟ์สไตล์ของลูกแมว รวมถึงประเภทของวัคซีนด้วย วัคซีนบางชนิดก็ต้องฉีดทุกปี บางชนิดอาจฉีดทุก ๆ 3 ปี โดยคุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับตารางการฉีดวัคซีนของแมวเพิ่มเติมได้

 

แมวควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อใด?

ลูกแมวควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกเมื่อมีอายุ 12 สัปดาห์ หลังจากฉีดวัคซีนครั้งแรก ต้องฉีดวัคซีนทุกปีหรือทุก ๆ 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของวัคซีน
 

ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

หลังจากการฉีดวัคซีน น้องแมวอาจมีอาการผิดปกติเล็กน้อย โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้มีดังนี้

  1. มีไข้ต่ำ

  2. เซื่องซึม

  3. ความอยากอาหารลดลง

  4. มีอาการบวมหรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด

นอกจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว พ่อแม่แมวควรพาเจ้าเหมียวไปฉีดวัคซีนหลักอื่น ๆ ด้วย เช่น วัคซีนรวม F4 วัคซีนรวม FeVac 5 และวัคซีน FVRCP การฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้ลูกแมวของคุณมีสุขภาพที่ดี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

  1. แมวต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ากี่ครั้ง?
  2. แมวอาจต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปีหรือทุก ๆ 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของวัคซีนป้องกัน

  3. แมวควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อใด?
  4. แมวควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกเมื่อมีอายุ 1 ปี หลังจากนั้นต้องฉีดกระตุ้นทุกปีหรือทุก ๆ 3 ปี

  5. วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจำเป็นสำหรับแมวหรือไม่?
  6. วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นวัคซีนหลักที่จำเป็นต่อแมวทุกตัว เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่มียารักษา อัตราการตายสูง การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ลูกแมวจึงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

  7. แมวในบ้านจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่?
  8. แมวทุกตัวจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดโอกาสติดเชื้อไวรัสที่ร้ายแรงนี้

  9. จะรู้ได้อย่างไรว่าแมวติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า?
  10. แมวที่ติดเชื้อมักจะแสดงอาการของโรคเล็กน้อยถึงขั้นรุนแรงหลังระยะฟักตัว ต่อไปนี้เป็นสัญญาณเริ่มแรกของโรคพิษสุนัขบ้าในแมว

    1. มีไข้

    2. ไม่กระตือรือร้น

    3. ความอยากอาหารลดลง

    4. กลืนลำบาก

    5. อาหารไม่ย่อย

    6. กลัวน้ำ

    7. มีอาการชัก