ทอรีนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในอาหารแมวของไอแอมส์™ เช่น อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับแมวโต
ทอรีนเป็นกรดอะมิโนอิสระที่พบอยู่ในเนื้อเยื่อและอวัยวะของร่างกาย เช่น หัวใจและดวงตา โดยจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การมองเห็น และการสืบพันธุ์ในลูกแมว รวมถึงจำเป็นต่อการผลิตน้ำดีที่ช่วยในการย่อยอาหารด้วย ทั้งนี้ทอรีนแตกต่างจากกรดอะมิโนชนิดอื่นตรงที่ไม่ใช่ในการสร้างโปรตีน
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมส่วนใหญ่สามารถผลิตทอรีนเองได้ แต่สำหรับแมวนั้น ไม่สามารถผลิตได้เพียงพอ จึงต้องรับเพิ่มจากอาหารเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยทอรีนพบได้ในส่วนผสมที่เป็นเนื้อสัตว์ หรืออาจมาในรูปแบบอาหารเสริม
ทอรีนช่วยเสริมสร้างการมองเห็น การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน การตั้งท้องและพัฒนาการของลูกในท้อง โดยสามารถพบทอรีนได้ในโปรตีนจากสัตว์เท่านั้น
น้องหมาสามารถสังเคราะห์ทอรีนได้จากกรดอะมิโน 2 ชนิด ได้แก่ ซิสเทอีนและเมไทโอนีน พวกเค้าจึงไม่ต้องการทอรีนในอาหาร แต่เพราะทอรีนมีประโยชน์มากมาย จึงยังเป็นสารอาหารสำคัญที่อยู่ในอาหารสุนัข
ทั้งนี้ยังไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับปริมาณทอรีนในอาหารสุนัข หากกังวลว่าน้องหมาได้รับทอรีนไม่เพียงพอ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
เนื่องจากน้องแมวไม่สามารถสังเคราะห์ทอรีนเองได้ จึงจำเป็นต้องมีทอรีนในอาหารของพวกเค้า หากในอาหารมีทอรีนน้อยเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญหลายประการ เช่น อาจทำให้จอประสาทตาเสื่อม และน้องแมวอาจตาบอดได้ นอกจากนี้การขาดทอรีนทำให้การเจริญเติบโตช้าลง และส่งผลต่อความสามารถในการสืบพันธุ์
ตามมาตรฐาน AAFCO นั้น อาหารเม็ดสำหรับแมวโต ต้องมีปริมาณทอรีนอย่างน้อย 25 มก./100 แคลอรี ส่วนอาหารเปียกต้องมี 50 มก./100 แคลอรี อย่างไรก็ตาม น้องแมวแต่ละตัวมีความต้องการทอรีนแตกต่างกัน จึงควรปรึกษาสัตวแพทย์หากมีความกังวลว่าพวกเค้าได้รับทอรีนไม่เพียงพอ
อาหารแมวชนิดเม็ดของ ไอแอมส์™ มีส่วนผสมของโปรตีนจากเนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มทอรีนให้เจ้าเหมียวได้ เช่น เนื้อไก่ ไข่ เนื้อแกะ และปลา ทั้งนี้ปริมาณทอรีนที่ได้จะแตกต่างกัน และอาจต้องเพิ่มปริมาณทอรีนเพื่อให้แน่ใจว่ามีทอรีนอยู่ระดับที่เหมาะสมที่สุด
ประโยชน์ของทอรีน
ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ในเนื้อเยื่อและอวัยวะอื่น ๆ เช่น กล้ามเนื้อ หัวใจ สมอง และดวงตา โดยจะแตกต่างจากกรดอะมิโนส่วนใหญ่ เพราะทอรีนไม่ได้สร้างโปรตีนในเซลล์ แต่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่างซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้องแมว ดังนี้
การขาดทอรีนอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เนื่องจากจำเป็นต่อการทำงานของหลาย ๆ ส่วนในร่างกาย โดยปัญหาที่พบได้จากการขาดทอรีน มีดังนี้
ทอรีนมีความสำคัญต่อพัฒนาการและการทำงานของเซลล์ในจอประสาทตา หากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดความเสื่อมบริเวณส่วนกลางของจอประสาทตา ส่งผลให้การมองเห็นบกพร่องและตาบอดในที่สุด
การขาดทอรีนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ภาวะนี้เรียกว่า Dilated Cardiomyopathy ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถบีบตัวได้เป็นปกติ เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต
ทอรีนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของน้องแมว โดยในช่วงตั้งท้องและให้นมลูกนั้น ทั้งแม่แมวและลูกแมวต้องรักษาระดับทอรีนให้เพียงพอ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกแมวจะมีพัฒนาการที่เหมาะสม
ระบบภูมิคุ้มกันของน้องแมวอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เป็นผลให้พวกเค้าไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้และมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคได้ง่าย
น้องแมวที่มีพลังงานน้อยอาจดูเหนื่อยล้าและมักจะอยู่นิ่ง ไม่ค่อยขยับตัว
ทอรีนมีส่วยช่วยในการผลิตน้ำดีซึ่งจำเป็นต่อการย่อยไขมัน น้องแมวอาจท้องเสียและมีปัญหาในระบบทางเดินอาหารหากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ
น้องแมวที่ขาดทอรีนอาจมีปัญหาการสืบพันธุ์ได้
ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยให้ฟันแข็งแรง ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุได้ดี
อาหารแมวไอแอมส์™ มีโปรตีนคุณภาพดีเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ยังเสริมด้วยทอรีนเพื่อให้แน่ใจว่ามีกรดอะมิโนจำเป็นชนิดนี้ในระดับที่เหมาะสมและสมดุล
อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์ สูตรสำหรับแมวโต รสไก่และแซลมอน เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดสำหรับน้องแมวที่คุณรัก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล มีโปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมถึงมีไฟเบอร์และพรีไบโอติกจากธรรมชาติ ช่วยให้ระบบย่อยและขับถ่ายดี
หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อร่างกาย แต่หากได้รับมากเกินไป น้องแมวอาจมีอาการอาเจียนเล็กน้อย
ในช่วงปลายปีทศวรรษที่ 1980 ทอรีนกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารแมว และตั้งแต่นั้นมา อาหารแมวทุกชนิดก็อุดมไปด้วยทอรีนในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของน้องแมวแต่ละตัว
เพราะการให้อาหารคุณภาพต่ำและมีสารอาหารไม่ครบถ้วน ทำให้น้องแมวจำนวนมากได้รับทอรีนไม่เพียงพอ เนื่องจากน้องแมวไม่สามารถสังเคราะห์ทอรีนได้ด้วยตัวเอง ทอรีนจึงเป็นสารอาหารสำคัญที่ควรมีอยู่ในอาหารแมว
การดูแลสุขภาพในช่องปากให้น้องแมวเป็นสิ่งสำคัญที่แนะนำให้ทำเป็นประจำ โดยเจ้าของควรเริ่มดูแลและฝึกแปรงฟันให้น้องแมวตั้งแต่ช่วงที่ฟันกำลังขึ้น เพื่อลดการสะสมของคราบพลัค หินปูน และป้องกันฟันผุ หากไม่แน่ใจว่าควรเริ่มดูแลกันอย่างไร มาติดตามข้อควรรู้ที่จำเป็นต่อการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของน้องแมวได้จากคู่มือนี้
เพื่อให้แน่ใจว่าจะดูแลฟันของน้องแมวได้อย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจระยะการเจริญเติบโตของฟันเจ้าเหมียวกันก่อน โดยลูกแมวจะเริ่มมีฟันขึ้นเมื่ออายุ 2 หรือ 3 สัปดาห์ และภายใน 8 – 12 สัปดาห์ พวกเค้าก็จะมีฟันน้ำนมครบทุกซี่ ต่อมาฟันน้ำนมเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้ ซึ่งในระหว่างการงอกของฟันอาจทำให้พวกเค้ารู้สึกไม่สบาย ปวด มีอาการบวม หรือมีเลือดออกตามไรฟัน เจ้าของสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับวิธีการดูแลและบรรเทาอาการเจ็บปวดเพิ่มเติมได้
หากต้องการให้น้องแมวมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ทำตามขั้นตอนการแปรงฟันเหล่านี้กันได้เลย
เมื่อลูกแมวคุ้นเคยกับแปรงสีฟันและยาสีฟันแล้ว ค่อย ๆ ยกริมฝีปากพวกเค้าขึ้น จากนั้นขยับแปรงไปมาเป็นวงกลมตามแนวฟันจนครบทุกซี่ ควรเลือกแปรงสีฟันขนนุ่ม ทั้งแปรงและยาสีฟันควรออกแบบมาเพื่อน้องแมวโดยเฉพาะด้ว
การแปรงฟันให้ลูกแมวจะใช้ยาสีฟันปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น และต้องคอยระวังไม่ให้พวกเค้ากลืนยาสีฟันลงไป
หลังแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว ควรให้รางวัลลูกแมวเป็นขนมสุดโปรดหรืออ้อมกอดอุ่น ๆ เพื่อสร้างความทรงจำที่ดี
ค่อย ๆ เพิ่มความถี่และระยะเวลาในการแปรงฟันเมื่อลูกแมวคุ้นเคยกับกระบวนการนี้มากขึ้น ทั้งนี้ควรฝึกแปรงฟันอย่างค่อยเป็นค่อยไป เจ้าของควรมีความอดทนและปฏิบัติกับพวกเค้าอย่างอ่อนโยน
การรักษาสุขภาพช่องปากของลูกแมวเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังส่งผลดีกับสุขภาพโดยรวมของพวกเค้าด้วย ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับป้องกันการสะสมของคราบพลัคและหินปูน เพื่อให้เหงือกและฟันของลูกแมวแข็งแรง
ผ้าหรือกระดาษทำความสะอาดฟัน และน้ำยาบ้วนปาก – ผ้าหรือกระดาษสำหรับทำความสะอาดฟันเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการดูแลช่องปาก สามารถใช้แทนการแปรงฟันได้ สำหรับน้ำยาบ้วนปากจะช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่นและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย
ขนมขัดฟัน – เป็นตัวช่วยที่มีทั้งประโยชน์และรสชาติอร่อย ขนมขัดฟันจะช่วยทำความสะอาดและเสริมให้ฟันแข็งแรง โดยแนะนำให้เลือกขนมสูตรสำหรับลดคราบพลัคและหินปูน แต่ให้หลีกเลี่ยงขนมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมาก
ตรวจสุขภาพในช่องปากเป็นประจำ – การตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าเหงือกและฟันของลูกแมวแข็งแรง นอกจากนี้คุณหมอยังสามารถช่วยระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้น พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลอย่างเหมาะสมได้อีกด้วย
การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพโดยรวมของแมว เจ้าของทุกคนจึงควรดูแลและเอาใจใส่สุขอนามัยในช่องปากของแมวเหมียวตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการแปรงฟัน การให้ขนมขัดฟัน และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีสุขภาพเหงือกและฟันที่แข็งแรงเป็นเวลาหลายปี! ทั้งนี้สามารถปรึกษาสัตวแพทย์ได้เสมอหากคุณมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากของลูกแมว