IAMS TH
The Importance of Protein, Fat, and Fiber in Cat Food
The Importance of Protein, Fat, and Fiber in Cat Food

adp_description_block37
โปรตีน ไขมัน และใยอาหารมีความสำคัญอย่างไรในอาหารแมว

  • แบ่งปัน

โปรตีนพิเศษในอาหารแมวของเรา

 

ผลิตภัณฑ์อาหารแมวของเรา มีส่วนประกอบของโปรตีนจากสัตว์ ซึ่งให้กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อแมว นอกจากนี้ กระบวนการกลั่นพิเศษและการทดสอบควบคุมคุณภาพของเรา ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า เราใช้เฉพาะโปรตีนชั้นดีที่ย่อยง่ายเพื่อการย่อยที่มากขึ้น

แมวควรได้รับอาหารจากเนื้อสัตว์จริง ๆ เนื่องจากโปรตีนจากพืชอย่างถั่วเหลืองไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อเค้า ตัวอย่างเช่น ทอรีน ซึ่งพบเฉพาะในโปรตีนจากสัตว์เท่านั้น

 

กรดไขมันพิเศษในอาหารแมวของเรา

 

กรดไขมันที่จำเป็นต่อแมวมีสองชนิดด้วยกัน ได้แก่ กรดไขมันโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 โดยโอเมก้า-6 มีหน้าที่บำรุงผิวหนังและขน รวมถึงโครงสร้างที่ถูกต้องของเยื่อบุเซลล์ พบได้ในไขมันไก่และข้าวโพด ส่วนโอเมก้า-3 มีหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ควบคุมการอักเสบ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยพบในวัตถุดิบอย่างคาโนล่า เนื้อปลา น้ำมันปลา และต้นแฟลกซ์ ผลิตภัณฑ์ของเราทุกสูตรมีส่วนผสมของโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3

งานวิจัยจากไอแอมส์™ พบว่า ส่วนผสมระหว่างกรดไขมันโอเมก้า-6 กับโอเมก้า-3 ในสัดส่วน 5:1 ถึง 10:1 ช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังและขนได้ดีที่สุดในสุนัข ผลิตภัณฑ์ของเราทุกสูตรมีส่วนประกอบของโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 ในสัดส่วนระหว่าง 5:1 ถึง 10:1

 

ใยอาหารพิเศษในอาหารของเรา

 

งานวิจัยจากไอแอมส์™ พบว่า ใยอาหารที่เกิดการหมักได้ปานกลาง เช่น บีทพัลพ์ ช่วยบำรุงสุขภาพลำไส้ได้ดีที่สุด ส่วนที่เกิดการหมักได้ของใยอาหารจะถูกย่อยโดยแบคทีเรียในลำไส้เป็นกรดไขมันสายสั้นเพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับเซลล์ลำไส้ ในขณะที่ส่วนที่เกิดการหมักไม่ได้จะเป็นกากอาหารในอุจจาระ

การใช้เพียงใยอาหารที่เกิดการหมักได้สูงเพียงอย่างเดียวทำให้เกิดปัญหา เช่น แก๊สเยอะเกินไป ส่วนการใช้ใยอาหารที่เกิดการหมักไม่ได้ เช่น เปลือกถั่ว เพียงอย่างเดียวทำให้มีปริมาณอุจจาระมากเกินไปเนื่องจากใยอาหารชนิดนี้ไม่มีประโยชน์ด้านโภชนาการ

ผลิตภัณฑ์ของเราทั้งหมด รวมถึง ไอแอมส์ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ แมวโต รสดั้งเดิมและไก่ มาพร้อมใยอาหารที่จดทะเบียนขึ้นแล้ว โดยประกอบไปด้วยใยอาหารที่เกิดการหมักได้ปานกลางเพื่อบำรุงสุขภาพลำไส้ของสุนัขและแมวให้แข็งแรง

 

  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในแมว
    การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในแมว
    adp_description_block179
    การฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและการดูแล

    • แบ่งปัน

    โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านการถูกกัดและข่วนโดยสัตว์ที่ติดเชื้อ เนื่องจากไม่มียาในการรักษา ทางออกเดียวที่จะต่อสู้กับไวรัสร้ายแรงนี้คือการฉีดวัคซีนป้องกัน

     

    วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นหนึ่งในวัคซีนหลักสำหรับแมว มันช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยให้แมวมีความเป็นอยู่ที่ดี แต่ก่อนจะพาเจ้าเหมียวไปฉีดวัคซีน เรามาทำความเข้าใจรายละเอียดของโรคและวิธีป้องกันไปด้วยกันในบทความนี้
     

    โรคพิษสุนัขบ้าแพร่กระจายได้อย่างไร?

    โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ ซึ่งติดต่อได้ทั้งในสัตว์และคน ไม่ใช่แค่สุนัขอย่างที่เข้าใจผิดกัน เชื้อชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลเปิด ผ่านเยื่อเมือกในตา ปาก และจมูก รวมถึงแพร่กระจายผ่านการสัมผัสน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อด้วย โดยแมวส่วนใหญ่จะแสดงอาการภายในเวลาไม่กี่วันหรืออาจใช้เวลานานถึงสองสามปีหลังได้รับเชื้อ
     

    เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรง พ่อแม่แมวจึงควรเรียนรู้สัญญาณเตือนและลักษณะอาการของโรคให้ดี ซึ่งอาการที่พบได้มีดังนี้

    1. มีไข้

    2. เซื่องซึม

    3. ความอยากอาหารลดลง

    4. หายใจลำบาก

    5. น้ำลายไหลมาก

    6. กลืนลำบาก

    7. พฤติกรรมผิดปกติ

    การรักษาโรคพิษสุนัขบ้าอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่มียารักษา การฉีดวัคซีนป้องกันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าแมวของคุณจะปลอดภัยจากโรคร้ายนี้
     

    แมวที่เลี้ยงในบ้านจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่?

    วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแมวทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพราะแมวมักจะเข้าสังคมด้วยการเลีย ดม หรือเกาตัวให้กัน แมวในบ้านจึงยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ การฉีดวัคซีนป้องกันถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่ลูกแมวจะติดเชื้อ วัคซีนจะกระตุ้นการสร้างแอนติเจนในร่างกาย ทำให้แมวสามารถรับมือกับไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าได้
     

    แมวควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าบ่อยแค่ไหน?

    การฉีดวัคซีนจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สายพันธุ์ และไลฟ์สไตล์ของลูกแมว รวมถึงประเภทของวัคซีนด้วย วัคซีนบางชนิดก็ต้องฉีดทุกปี บางชนิดอาจฉีดทุก ๆ 3 ปี โดยคุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับตารางการฉีดวัคซีนของแมวเพิ่มเติมได้

     

    แมวควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อใด?

    ลูกแมวควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกเมื่อมีอายุ 12 สัปดาห์ หลังจากฉีดวัคซีนครั้งแรก ต้องฉีดวัคซีนทุกปีหรือทุก ๆ 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของวัคซีน
     

    ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

    หลังจากการฉีดวัคซีน น้องแมวอาจมีอาการผิดปกติเล็กน้อย โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้มีดังนี้

    1. มีไข้ต่ำ

    2. เซื่องซึม

    3. ความอยากอาหารลดลง

    4. มีอาการบวมหรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด

    นอกจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว พ่อแม่แมวควรพาเจ้าเหมียวไปฉีดวัคซีนหลักอื่น ๆ ด้วย เช่น วัคซีนรวม F4 วัคซีนรวม FeVac 5 และวัคซีน FVRCP การฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้ลูกแมวของคุณมีสุขภาพที่ดี

Close modal