IAMS TH
Is Your Kitten Ready for Adult Cat Food?
Is Your Kitten Ready for Adult Cat Food?

adp_description_block127
ลูกแมวของคุณพร้อมกินอาหารแมวโตหรือยัง

  • แบ่งปัน


เจ้าของแมวล้วนคุ้นเคยกับอาการที่บ่งบอกว่าเจ้าเหมียวกำลังปวดท้องเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงครางเจ็บปวด การขย้อนอาหาร หรืออาการคลื่นไส้ แต่เมื่อเค้าแสดงอาการเหล่านี้แล้ว เจ้าเหมียวก็กลับไปร่าเริงเหมือนปกติ ปล่อยให้เจ้าของทำความสะอาดคราบบนพื้นที่กองอยู่

ซินเธีย โบเวนแห่งคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอก็คุ้นชินกับเหตุการณ์ทำนองนี้เป็นอย่างดี ในฐานะเจ้าของแมวเมนคูน 4 ตัว ซินเธียผ่านการเช็ดคราบอาเจียนของเจ้าเหมียวมาไม่น้อย “ฉันเจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ประมาณ 2-3 เดือนครั้ง” เธอกล่าว “แต่นอกจากนี้แล้วเค้าก็ดูแข็งแรงดี”

แม้ว่าจะไม่ใช่หัวข้อที่น่าอภิรมย์สักเท่าไร แต่การอาเจียนดูจะเป็นอาการที่เจ้าเหมียวทำเป็นปกติ เจ้าของแมวส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่านี่เป็นเรื่องธรรมชาติเมื่อเป็นเจ้าของแมว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป การทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เจ้าเหมียวปวดท้องและวิธีรับมือจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคุณและเค้าให้สนิทกันมากขึ้น
 

ความพรีเมียมสำคัญหรือไม่ ?

ทำไมถึงควรเปลี่ยนอาหารของลูกแมวที่กำลังเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยมาเป็นอาหารแมวโตระดับพรีเมียม … เพราะคุณภาพของอาหารคือคำตอบ

การรักษาระดับคุณค่าทางสารอาหารที่ลูกแมวได้รับมาตั้งแต่วัยเด็กจนโตเต็มวัยนั้นสำคัญมาก เจ้าเหมียวอาจมีปัญหาในการย่อยได้หากลดเกรดอาหารเป็นแบรนด์ตลาดทั่วไป เนื่องจากเค้าจะขาดสารอาหารชนิดเดียวกับที่ร่างกายเคยได้รับ

ลองนึกถึงเด็กทารก เมื่อถึงวัยที่เปลี่ยนมากินอาหารแข็งแล้ว คุณก็อยากให้สารอาหารที่ดีที่สุดกับเค้าใช่ไหมล่ะ เจ้าเหมียวก็เหมือนกัน เค้าต้องการอาหารที่เหมาะกับอายุเพื่อบำรุงและเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อาหารพรีเมียมอย่างไอแอมส์ผ่านการคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าเหมียวและยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์นานาชนิด

ไอแอมส์ผ่านการคิดค้นสูตรอาหารให้เหมาะกับแมวของคุณเพื่อมอบคุณประโยชน์ต่างๆ อาทิ

  • วัตถุดิบคุณภาพสูง
  • โปรตีน ไขมัน ใยอาหาร คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสมและสมดุล ไม่ต้องเพิ่มอาหารเสริมใด ๆ
  • รสชาติอร่อย คุณภาพดี 
  • ตรงตามมาตรฐานของ AAFCO (Association of American Feed Control Officials)
  • อัดแน่นด้วยสารอาหารที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
  • การันตีผลิตภัณฑ์

 

จากประโยชน์ต่าง ๆ นี้ คุณจะเห็นผลลัพท์อะไรบ้าง ?

อาหารเกรดพรีเมียมที่มีโภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยให้เจ้าเหมียวมีสุขภาพดีและมีความสุข ด้วยอาหารแมวคุณภาพ คุณมั่นใจได้เลยว่าเค้าจะมีสุขภาพดีแข็งแรง โดยสังเกตได้จากสัญญาณสุขภาพดีต่อไปนี้  ไอแอมส์จะช่วยให้เจ้าเหมียวมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืน

  • สังเกตเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน แข็งแรง
  • ขนสวยเงางาม
  • ผิวหนังและกระดูกแข็งแรง
  • ตาเป็นประกาย ฟันสะอาด
  • อึจับตัวเป็นก้อน

จากการศึกษาวิจัยมาหลายทศวรรษ สูตรลับเฉพาะของไอแอมส์ช่วยรักษาสุขภาพแมวของคุณรวมถึงมีสารอาหารสำคัญที่จำเป็นสำหรับแมวที่จะทำให้เค้ามีอายุยืนอยู่กับเราได้นาน ๆ ซึ่งแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาดอาจไม่มีความเชี่ยวชาญเท่ากับไอแอมส์ที่มีความใส่ใจในอาหารทุก ๆ ถุง

 

ควรเปลี่ยนอาหารเมื่อไร ?

เมื่อแมวของคุณอายุประมาณ 12 เดือน คุณสามารถเปลี่ยนมาให้อาหารพรีเมียมสูตรที่คิดค้นเพื่อสุขภาพที่ดีได้ทันที โดยระหว่างที่เพิ่งมาให้อาหารแมวโต อย่าลืมดูน้ำหนักและสภาพร่างกายของเจ้าเหมียวแล้วจึงปรับปริมาณอาหารตามความเหมาะสม

เนื่องจากแมวส่วนใหญ่กินอาหารเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แค่เทอาหารเอาไว้ให้เค้าก็เพียงพอแล้ว (การเทอาหารทิ้งไว้จะทำให้แมวกินอาหารได้ตลอดเวลา แถมเค้ายังเลือกปริมาณและเวลากินได้เองอีกด้วย) แต่แมวที่เลี้ยงในบ้านซึ่งไม่ค่อยออกกำลังกายอาจกินอาหารเยอะเกินไปได้หากเทอาหารทิ้งไว้ แมวที่เลี้ยงในลักษณะนี้จึงควรเปลี่ยนเป็นมาให้แบบควบคุมปริมาณวันละ 2 มื้อ

หากสงสัยว่าควรให้อาหารแมวปริมาณแค่ไหนจึงจะเหมาะสม ให้ดูที่ฉลากของผู้ผลิตเพื่อดูปริมาณที่แนะนำ ปฏิบัติตามคำแนะนำและชั่งน้ำหนักแมวเป็นประจำทุกสัปดาห์ หากแมวน้ำหนักขึ้นหรือลงผิดปกติ ให้ปรับปริมาณอาหารแล้วชั่งน้ำหนักอีกครั้งในสัปดาห์ต่อมา

 

วิธีการเปลี่ยนอาหาร

เพื่อป้องกันปัญหาลำไส้แปรปรวนจากการเปลี่ยนอาหาร ให้คุณเปลี่ยนจากอาหารลูกแมวมาเป็นแมวโตภายใน 4 วัน โดยค่อย ๆ เปลี่ยนตามคำแนะนำด้านล่าง

  • วันที่ 1: ให้อาหารสูตรลูกแมว 75% และอาหารแมวโต 25%
  • วันที่ 2: ผสมอาหารลูกแมวและแมวโตในอัตราส่วน 50:50
  • วันที่ 3: ให้อาหารสูตรแมวโต 75% และสูตรลูกแมว 25%
  • วันที่ 4: เปลี่ยนเป็นสูตรแมวโตได้ 100%

  • How to Decipher Cat Food Product Labels
    How to Decipher Cat Food Product Labels
    adp_description_block184
    อายุขัยแมวและเคล็ดลับการดูแลแมวให้อายุยืน

    • แบ่งปัน

    ทาสแมวรู้ไหมว่า อายุขัยเฉลี่ยของแมวอยู่ที่ 15 ปี โดยแมวเลี้ยงในบ้านมักมีอายุขัยราว 12 – 18 ปี และบางตัวอาจอยู่ได้นานถึง 20 ปีเลยทีเดียว ในทางกลับกัน อายุขัยของแมวที่เลี้ยงแบบปล่อยหรือแมวจรนั้นมักสั้นกว่า เพราะพวกเค้ามีชีวิตที่เสี่ยงอันตรายจากการประสบอุบัติเหตุและการถูกทำร้ายโดยสัตว์ชนิดอื่น อีกทั้งหากเจ็บป่วยก็มักไม่ได้รับการรักษาพยาบาล

    เราเชื่อว่าพ่อแม่แมวเหมียวทุกคนย่อมอยากดูแลให้เจ้าตัวน้อยแข็งแรงและอยู่ด้วยกันนาน ๆ  สำหรับแมว อายุขัยที่ยืนยาวเป็นผลรวมของหลากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้แล้วในบทความนี้

    ช่วงอายุแมวมีกี่ช่วง?

    การดูแลแมวให้มีอายุยืนยาวต้องเริ่มจากทำความเข้าใจแต่ละช่วงวัยของพวกเค้าก่อน โดยช่วงอายุแมวแบ่งออกเป็น 6 ช่วงด้วยกัน

    • ช่วงวัยลูกแมว
      • ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 เดือน ถือเป็นช่วงวัยลูกแมว ในช่วงเวลานี้ เจ้าตัวน้อยจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงต้องการสารอาหารและพลังงานมากเป็นพิเศษ
    • ช่วงวัยเด็ก
      • น้องแมวอายุ 6 เดือน – 2 ปี จัดว่าอยู่ในช่วงวัยเด็ก พวกเค้าจะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และจะแสดงลักษณะนิสัยเฉพาะตัวออกมาให้เห็นกัน ทั้งนี้เมื่อพวกเค้ามีอายุ 1 ปี สามารถเปลี่ยนอาหารจากสูตรลูกแมวมาเป็นสูตรแมวโตได้
    • ช่วงวัยรุ่น
      • ช่วงวัยรุ่นคือช่วงอายุ 3 – 6 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายของพวกเค้าอยู่ในสภาพที่สมบรูณ์ที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้องแมวจะมีสุขภาพดี แต่ก็ยังคงต้องตรวจเช็กร่างกายกับสัตวแพทย์เป็นประจำ
    • ช่วงโตเต็มวัย
      • น้องแมวในช่วงโตเต็มวัยมีอายุระหว่าง 7 – 10 ปี พวกเค้าอาจทำกิจกรรมน้อยลง ซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มง่ายขึ้น น้องแมวในวัยนี้อาจต้องเปลี่ยนสูตรอาหาร รวมถึงเพิ่มวิตามินบางชนิดเพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกัน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการดูแลพวกเค้าให้แข็งแรงและอยู่กับเราได้นานขึ้น
    • ช่วงสูงวัย
      • ช่วงอายุระหว่าง 11 – 14 ปี ถือว่าเข้าสู่ช่วงสูงวัยแล้ว และมีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วย จึงควรปรึกษาและพบสัตวแพทย์เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวจะมีสุขภาพดี ได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการ
    • ช่วงวัยชรา
      • เมื่อน้องแมวมีอายุ 15 ปีขึ้นไปแปลว่าอยู่ในช่วงวัยชราแล้ว โดยน้องแมวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแอ็กทีฟ และต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ

    เทียบอายุแมวกับอายุคนได้อย่างไร?

    สามารถเปรียบเทียบอายุแมวกับอายุของคนได้ดังนี้

    1. แมวอายุ 1 ปี เทียบเท่าคนอายุ 15 ปี
    2. แมวอายุ 2 ปี เทียบเท่าคนอายุ 24 ปี
    3. หลังจากน้องแมวอายุ 2 ปี วิธีคำนวณอายุเทียบกับคนคือ 1 ปีของแมวเทียบเท่า 4 ปีของคน เช่น เมื่อมีอายุ 3 ปี ก็จะเทียบเท่ากับคนอายุ 28 ปี และเมื่ออายุครบ 4 ปี จะเทียบเท่ากับคนอายุ 32 ปี

    ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่ออายุขัยแมว?

    ในการดูแลเจ้าเหมียวให้มีสุขภาพดี แข็งแรง และอยู่ด้วยกันกับเราได้นาน ๆ ต้องเริ่มจากทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุขัยของเจ้าเหมียวกันก่อน

    • อาหารคุณภาพดีและน้ำสะอาด

      • การให้อาหารคุณภาพดีเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มอายุขัยเฉลี่ยแมว น้องแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ ดังนั้นควรเลือกอาหารที่มีส่วนผสมหลักเป็นโปรตีนและมีสารอาหารจำเป็นต่อแมว เช่น ทอรีน นอกจากนี้อย่าลืมเตรียมน้ำสะอาดให้พวกเค้าตลอดเวลาด้วย
    • การดูแลสุขภาพร่างกาย

      • การพบสัตวแพทย์เป็นประจำ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเจ้าเหมียวสุขภาพดี ไม่มีปัญหาสุขภาพแอบแฝง โดยคุณหมอยังสามารถแนะนำเรื่องอาหารการกิน การควบคุมน้ำหนัก และการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับเจ้าตัวน้อยของคุณได้ด้วย
      • การป้องกันปรสิตตัวร้ายก็สำคัญ คุณหมออาจแนะนำให้ตรวจอุจจาระเพื่อหาหนอนพยาธิชนิดต่าง ๆ โดยคุณสามารถเก็บตัวอย่างอุจจาระได้ด้วยตัวเอง ก่อนนำไปให้คุณหมอเมื่อถึงเวลานัดหมาย วิธีนี้จะช่วยให้ประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางบ่อย แถมเจ้าเหมียวก็แฮปปี้ด้วย
      • นอกจากนี้คุณหมอจะจัดตารางการฉีดวัคซีนให้เจ้าตัวน้อยด้วย เพื่อป้องกันและเตรียมร่างกายให้พร้อมต่อสู้กับโรคร้ายต่าง ๆ เช่น โรคพิษสุนัข ทั้งนี้วัคซีนบางชนิดจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นทุกปี ส่วนบางชนิดก็ทุก ๆ สามปี ดังนั้นควรไปพบคุณหมอตามนัดหมายทุกครั้ง!
    • ความเอาใจใส่

      • ไม่ใช่แค่อาหารหรือข้าวของที่จำเป็นเท่านั้นที่น้องแมวต้องการจากเรา พวกเค้าต้องการความรักความเอาใจใส่ด้วย แม้ว่าจะมีนิสัยรักอิสระ แต่บางเวลาเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ก็ต้องการความสนใจ อย่าลืมแบ่งเวลามาเล่นหรือทำกิจกรรมกับพวกเค้าประมาณ 10 – 15 นาทีต่อวัน ไม่จำเป็นต้องหาซื้อของเล่นราคาแพง แค่ถุงเท้าที่สะอาดผูกเข้ากับเชือกก็สร้างความสนุกสนานให้เจ้าเหมียวได้มากแล้ว
    • การออกกำลังกาย

      • ชวนน้องแมวเล่นสนุกหรือทำกิจกรรมง่าย ๆ วันละ 30 นาที เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าตัวน้อยของคุณจะมีร่างกายแข็งแรง พร้อมอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ
    • ดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน

      • หากไม่แปรงฟันเป็นประจำจะทำให้เกิดคราบหินปูนสะสม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอื่น ๆ ได้ เช่น ปวดฟัน ฟันหลุดร่วง หรือโรคไต จึงควรหมั่นทำความสะอาดฟันและพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กสุขภาพฟันเป็นประจำ

Close modal