IAMS TH
Your Cat’s Language: What Meows, Chirps and Yowls Mean
Your Cat’s Language: What Meows, Chirps and Yowls Mean

adp_description_block14
ความหมายของเสียงแมว

  • แบ่งปัน

เสียงร้องของแมว

สงสัยกันไหมว่าเสียงร้องเพอร์ของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร? มันไม่ใช่การเปล่งเสียงทั่วไป แต่เกิดจากการหดตัวและคลายกล้ามเนื้อกล่องเสียงอย่างรวดเร็ว ประมาณ 150 ครั้งต่อวินาที และในขณะที่แมวหายใจแต่ละครั้ง อากาศจะถูกดันออกผ่านกล้ามเนื้อที่สั่นสะเทือนเหล่านี้ ทำให้คุณได้ยินเสียงครางต่ำที่ผ่อนคลายและก้องกังวาน 

แมวร้องเพอร์เพราะอะไร?

เสียงร้องเป็นหนึ่งในวิธีการสื่อสาร เป็นวิธีบอกความต้องการ และเรียกร้องความสนใจ แม่แมวจะร้องเพอร์เพื่อสร้างสายสัมพันธ์กับลูก ๆ ส่วนลูกแมวจะตอบกลับเพื่อส่งสัญญาณให้แม่รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี สำหรับแมวโตนั้น พวกเค้าจะร้องเพอร์เมื่อมีความสุขและสบายใจ แต่ในบางครั้งก็เกิดขึ้นเมื่อพวกเค้ารู้สึกเครียด เจ็บปวด หรือแม้กระทั่งเวลาที่หิว 

เพื่อทำความเข้าใจเจ้าเหมียว เรามาเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับเสียงร้องของแมวแบบต่าง ๆ ไปด้วยกันในบทความนี้

เสียงร้องเพอร์ หมายความอย่างไร?

ไม่ใช่แค่ความน่ารักเท่านั้นที่ทำให้เราหลงใหล แต่ความลึกลับน่าค้นหาก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้แมวดูน่าสนใจ อย่างการร้องเพอร์เบา ๆ ที่เราต่างชื่นชอบ เสียงนี้หมายถึงอะไร? พวกเค้าต้องการบอกอะไรกันนะ?

  1. มีความสุข

    เมื่อได้พักผ่อนในมุมโปรด ได้นอนอาบแดดยามบ่าย หรือขดตัวอยู่บนตักของคุณ แมวมักจะส่งเสียงร้องเพอร์ออกมาเบา ๆ มันเป็นสัญญาณของความพึงพอใจอย่างแท้จริง ในภาษาแมวอาจแปลว่า “ชีวิตช่างมีความสุขเหลือเกิน”

  2. แสดงความรักความผูกพัน

    แมวรักอิสระ หวงเนื้อหวงตัว แต่หากเจ้าตัวน้อยเหล่านี้เข้ามาคลอเคลียพร้อมส่งเสียงเพอร์ มันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความรักและความผูกพัน เหมือนเป็นการบอกกลาย ๆ ว่า “คุณเป็นทาสคนโปรดของฉัน และฉันรักคุณนะ”

  3. เป็นสัญญาณบอกตำแหน่ง

    เคยเจอไหม? ได้ยินเสียงร้องเพอร์แต่ไม่เห็นตัวเจ้าเหมียว นั่นคือวิธีประกาศการมีอยู่ของพวกเค้า เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า “อย่ากังวล เหมียวอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง”

  4. บอกความเจ็บปวด

    เสียงเพอร์ไม่ได้บ่งบอกถึงความสุขและความพึงพอใจเสมอไป แมวอาจร้องเพอร์เมื่อเจ็บปวดหรือไม่สบาย ซึ่งอาจคล้ายกับเสียงของลูกแมวหรือเสียงร้องครวญคราง

  5. รักษาตัวเอง

    แมวสามารถรักษาตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง โดยเสียงร้องเพอร์เป็นหนึ่งในวิธีรักษาและบรรเทาความเจ็บปวด การสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นมีส่วนช่วยส่งเสริมการรักษากระดูกและเนื้อเยื่อ การร้องในรูปแบบนี้คล้ายกับเสียงแม่แมวที่ปลอบโยนและบอกรักลูกแมวตัวน้อย

  6. ตอบรับการสัมผัส

    หากแมวร้องเพอร์เมื่อคุณลูบขนหรือเกาพุง มันเป็นเสียงหัวเราะเวอร์ชันแมว เป็นการตอบสนองอย่างสนุกสนาน พวกเค้ารักทุกช่วงเวลาที่คุณให้ความสนใจ

  7. บรรเทาความเครียด

    การส่งเสียงเพอร์เป็นกลไกบรรเทาความเครียด เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด แมวจะเริ่มส่งเสียงเพอร์เพื่อสงบสติอารมณ์

  8. รู้สึกหิว

    แมวมักจะส่งเสียงดังเวลาที่หิว หากคุณได้ยินเสียงร้องเพอร์ที่ดังกว่าปกติ อาจแปลว่าถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว มันเหมือนกับการขออาหารอย่างสุภาพของแมวเหมียว

    หลังได้เรียนรู้ความหมายของเสียงเพอร์กันไปแล้ว เราหวังว่าคุณจะถอดรหัสข้อความที่เจ้าเหมียวต้องการจะบอกได้ดีมากยิ่งขึ้น

ทำไมแมวชอบร้อง “เมี้ยววว” ?

หากเจ้าเหมียวของคุณมีนิสัยช่างพูดช่างคุย ชอบส่งเสียงเจื้อยแจ้ว คุณอาจจะสงสัยว่าพวกเค้าต้องการบอกอะไร แมวมักจะแสดงอารมณ์ผ่านการส่งเสียง และความหมายของเสียงแต่ละแบบก็แตกต่างกันไป อาจเป็นการเรียกร้องความสนใจ แสดงความหิว ต่อสู้กับความเหงา เป็นสัญญาณของความเครียดหรือความเจ็บปวด แมวสูงอายุอาจร้องบ่อยขึ้นเนื่องจากการรับรู้เปลี่ยนไป และบางครั้งความเบื่อก็ทำให้แมวส่งเสียงร้องมากขึ้นเช่นกัน การใส่ใจกับบริบทและรูปแบบการร้องของแมวจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและรับประกันความเป็นอยู่ที่ดีของแมวได้

เสียงร้องของแมวแบบต่าง ๆ 

แมวแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้ดีกว่าที่เราคิดนะ ต่อไปนี้เป็นเสียงร้อง 5 เสียงที่พบบ่อยที่สุด พร้อมความหมายโดยทั่วไป

  1. เสียงเมี้ยว

    ถือเป็นเสียงอเนกประสงค์ในภาษาแมว เจ้าเหมียวอาจร้องเพื่อเรียกร้องความสนใจ ขออาหาร หรือเพียงแค่ทักทาย น้ำเสียงและความดังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้เช่นกัน ตั้งแต่การทักทายที่เป็นมิตรไปจนถึงความต้องการเร่งด่วน

  2. เสียงขู่

    นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความไม่พอใจหรือความกลัว เมื่อแมวส่งเสียงขู่ มันเป็นการเตือนให้ถอยออกไป และทางที่ดีควรเคารพขอบเขตและความเป็นส่วนตัวของพวกเค้า

  3. เสียงนกร้อง

    เสียงแปลก ๆ นี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวเห็นนกหรือเหยื่อผ่านหน้าต่าง มันเหมือนกับการแสดงออกถึงความตื่นเต้นหงุดหงิดที่ไม่สามารถจับมันได้

  4. เสียงคำราม

    เสียงนี้เป็นสัญญาณว่าแมวกำลังรู้สึกว่าถูกคุกคามหรือถูกบุกรุกอาณาเขต เป็นเสียงต่ำที่ดังจากลำคอเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกเข้ามา

  5. เสียงครวญคราง

    เป็นเสียงที่บ่งบอกว่าเจ้าเหมียวกำลังเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ เป็นเหมือนการร้องหาคู่ มักพบในแมวตัวเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน

    การทำความเข้าใจเสียงเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเจ้าเหมียวได้ดีขึ้น รวมถึงยังสามารถตอบสนองต่อความต้องการและอารมณ์ของพวกเค้าได้อย่างเหมาะสมด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเสียงร้องของแมว

  1. แมวส่งเสียงร้องหมายความว่าอย่างไรบ้าง?
  2. เสียงร้องของแมวอาจหมายถึงสิ่งต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่การเรียกร้องความสนใจไปจนถึงการแสดงความรู้สึกไม่สบาย บางครั้งก็เป็นเพียงการทักทาย

  3. ทำไมแมวถึงร้องเสียงดังไม่หยุด?
  4. การร้องในรูปแบบนี้อาจแปลว่าแมวกำลังหิว ไม่สบายตัว เจ็บป่วย หรือรู้สึกกังวล ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องระบุสาเหตุและตอบสนองความต้องการของพวกเค้าให้ได้

  5. ทำอย่างไรให้แมวส่งเสียงร้องบ่อยขึ้น?
  6. คุณสามารถกระตุ้นให้แมวส่งเสียงร้องโดยการเล่น การให้ขนม และการใช้เวลาร่วมกับพวกเค้า การสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นจะช่วยให้แมวอยากสื่อสารมากขึ้น

  7. แมวร้องเพอร์เพราะอะไร?
  8. การร้องเพอร์มักจะบ่งบอกถึงความพึงพอใจ แต่ในบางกรณีอาจบ่งบอกถึงความเจ็บปวด ความเครียด หรืออาจเป็นการเรียกร้องความสนใจ

  9. แมวร้องเพอร์เพราะมีความสุขใช่หรือไม่?
  10. การร้องเพอร์ไม่ได้หมายความว่าแมวมีความสุขเสมอไป แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณของความพึงพอใจ แต่ในบางครั้ง แมวก็ร้องเพอร์เมื่อรู้สึกเจ็บปวด วิตกกังวล หรือไม่สบาย

  11. ทำไมแมวร้องเพอร์เมื่อเข้ามาคลอเคลียเรา?
  12. แมวร้องเพอร์พร้อมเข้ามาคลอเคลีย เป็นการปลอบโยนและแสดงความพึงพอใจ เป็นการบอกว่าพวกเค้ารักและรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับคุณ

  • kitten constipation image
    kitten constipation image
    adp_description_block64
    เมื่อลูกแมวท้องผูก วิธีแก้และการดูแลอย่างถูกต้อง

    • แบ่งปัน

    ลูกแมวมักจะเต็มไปด้วยพลังและความสดใส ทำให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความสนุก อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเล็กเหล่านี้ก็อาจมีวันที่ไม่ดีได้เช่นกัน คุณอาจพบว่าพวกเค้าดูไม่สบายตัว กินอะไรแทบไม่ได้เลย และขับถ่ายไม่ออก เป็นไปได้ว่าพวกเค้าอาจมีอาการท้องผูก
     

    อาการท้องผูกในลูกแมว คืออะไร?

     

    อาการท้องผูกเป็นภาวะที่ทำให้ขับถ่ายลำบาก ขับถ่ายน้อยกว่าปกติ ในบางกรณี อาการไม่สบายนี้อาจรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ยิ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานานกว่า 48 ชั่วโมง
     

    ลูกแมวท้องผูก มีอาการอย่างไรบ้าง?

     

    ลูกแมวแต่ละตัวจะแสดงอาการแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปมักจะมีอาการดังนี้
     

    1. ขับถ่ายน้อยหรือไม่ขับถ่ายเลย – หากลูกแมวของคุณไม่ขับถ่ายเป็นเวลา 24 – 48 ชั่วโมง นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการท้องผูก

    2. ขับถ่ายลำบาก – ลูกแมวอาจใช้กระบะทรายนานผิดปกติ อาจเดินวนไปวนมาไม่ยอมขับถ่ายสักที หรือถ่ายออกมาเป็นอุจจาระก้อนเล็กและแข็ง

    3. เบื่ออาหาร – ลูกแมวที่มีอาการท้องผูกมักจะกินอาหารน้อยลง

    4. เซื่องซึม – จากที่ชอบเล่นและสำรวจ ลูกแมวกลับนอนมากขึ้นและดูไม่ค่อยสนใจทำกิจกรรมต่าง ๆ

    5. ท้องอืดหรืออาเจียน – หากลูกแมวอาเจียนหรือท้องดูป่อง อาจเป็นเพราะท้องผูก
       

    สาเหตุของอาการท้องผูกในแมว

     

    อาการท้องผูกเกิดจากหลายปัจจัย เช่น
     

    1. ภาวะขาดน้ำ – หากได้รับน้ำไม่เพียงพอ ลูกแมวก็อาจมีอาการท้องผูกได้

    2. กลืนสิ่งของที่ไม่สามารถย่อยได้ – ลูกแมวสำรวจสิ่งใหม่ ๆ รอบตัวด้วยการดมกลิ่นและการกัดแทะ พวกเค้าอาจเผลอกลืนสิ่งของต่าง ๆ ลงไป เช่น ริบบิ้นหรือยางรัดผม สิ่งเหล่านี้อาจไปอุดตันในทางเดินอาหารได้

    3. ขาดการกระตุ้น – ลูกแมวที่ยังไม่หย่านมจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นขับถ่าย ไม่เช่นนั้น พวกเค้าอาจมีอาการท้องผูก

    4. พยาธิในลำไส้ – การติดเชื้อพยาธิหรือปรสิตอย่างหนักในลำไส้อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้

    5. โรคทางระบบประสาทหรือปัญหาอื่น ๆ – ภาวะทางระบบประสาทหรือโรคบางอย่างที่ส่งผลต่อส่วนหลังของลำตัวอาจทำให้ลูกแมวมีอาการท้องผูกได้

     

    หลังทราบสาเหตุและอาการเบื้องต้นกันไปแล้ว เรามาเจาะลึกถึงวิธีดูแลรักษาอาการท้องผูกในแมวกันบ้าง
     

    การรักษาอาการท้องผูกในแมว

     

    ในกรณีที่ลูกแมวกินอาหารได้ตามปกติและยังคงกระฉับกระเฉง เราสามารถบรรเทาอาการไม่สบายได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่หากลูกแมวมีอาการท้องผูกอย่างต่อเนื่อง หรือกระตือรือร้นน้อยลงและไม่ยอมกินอาหาร ควรพาไปพบสัตวแพทย์
     

    โดยคุณหมออาจรักษาด้วยการให้สารน้ำบำบัด การสวนทวาร หรืออาจต้องเอกซเรย์เพื่อตรวจหาการอุดตัน และในกรณีที่ร้ายแรง คุณหมออาจต้องผ่าตัดนำอุจจาระที่อุดตันออก

     

    การดูแลเยียวยาอาการท้องผูกในลูกแมวที่บ้าน

     

    สุขภาพและความเป็นอยู่ของลูกแมวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เลี้ยงทุกคน หากสังเกตเห็นสัญญาณเริ่มแรกของอาการท้องผูก คุณสามารถดูแลพวกเค้าด้วยวิธีเหล่านี้ก่อนไปพบสัตวแพทย์ได้

     

    1. ให้ลูกแมวกินน้ำมากขึ้น – การให้น้ำเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอาการท้องผูก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเตรียมน้ำสะอาดเพียงพอ วางชามน้ำในจุดที่เข้าถึงง่าย หากลูกแมวชอบอาหารเม็ดให้ลองผสมน้ำอุ่นเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำที่ลูกแมวควรจะได้รับ

    2. เพิ่มไฟเบอร์ในอาหาร – ไฟเบอร์แค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างมหัศจรรย์ คุณอาจเติมฟักทองหนึ่งช้อนลงในอาหารของเจ้าตัวน้อย หรือเลือกให้อาหารแมวไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรแม่และลูกแมว ที่มีพรีไบโอติกจากธรรมชาติ (FOS) ช่วยเสริมการทำงานของลำไส้และระบบย่อยอาหาร

    3. กระตุ้นให้แมวเคลื่อนไหวร่างกาย – การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ชวนลูกแมวของคุณทำกิจกรรมที่สนุกสนานและได้เคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ

    4. หมั่นสังเกตพฤติกรรมลูกแมว – สังเกตพฤติกรรมของลูกแมวอย่างใกล้ชิด หากอาการแย่ลงหรือคงอยู่นานกว่าหนึ่งวัน ถึงเวลาต้องพบสัตวแพทย์แล้ว

     

    การฟื้นฟูและการจัดการกับอาการท้องผูกในแมว

     

    เมื่อกำจัดสิ่งที่อุดตันออกไปแล้ว ลูกแมวมักจะฟื้นตัวจากอาการท้องผูกได้อย่างรวดเร็ว แต่เราก็ยังคงต้องค้นหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ รวมถึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ทั้งการให้ยาตามที่กำหนด การถ่ายพยาธิและตรวจอุจจาระเป็นประจำ การทำความเข้าใจอาการท้องผูกช่วยให้ลูกแมวของคุณมีความสุข มีสุขภาพดี และพร้อมที่จะสำรวจโลกที่น่าตื่นเต้นได้อย่างเต็มที่
     

    ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ และการเยียวยาอาการท้องผูกอย่างเหมาะสม ลูกแมวของคุณจะกลับมากระตือรือร้นและมีพลังได้ในเวลาไม่นาน หากคุณไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ อย่าลังเลที่จะปรึกษาสัตวแพทย์

Close modal