มันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของสุนัข แต่โดยทั่วไปแล้วสัตว์เลี้ยงของคุณจะเริ่มแก่ตัวลงเมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป Louise Murray, DVM ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ Bergh Memorial ASPCA ในนิวยอร์กซิตี้และผู้เขียน Vet Confidential (Ballantine, 2008) บอกคุณถึงสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อให้สุนัขสูงวัยมีความสุข
ในขั้นตอนนี้ Murray แนะนำให้พาสุนัขของคุณไปพบสัตว์แพทย์ปีละสองครั้ง “ สามารถเกิดขึ้นกับ สุนัขแก่ได้มากกว่า ” เธอกล่าว สัตวแพทย์ของคุณจะตรวจเลือดเป็นประจำทุกปีเพื่อทดสอบการทำงานของตับและไต “การค้นพบปัญหาแต่เนิ่นๆมีความสำคัญอย่างยิ่ง” เธอกล่าว สัตว์แพทย์ของคุณจะตรวจหาสาเหตุที่มักจะส่งผลกระทบต่อสุนัขที่มีอายุมาก เช่น โรคโลหิตจาง และโรคข้ออักเสบ
จงให้ความสนใจกับสิ่งที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในพฤติกรรมของสุนัขของคุณ: สุนัขกินน้ำมากขึ้นหรือปัสสาวะในปริมาณมากขึ้นหรือไม่ พฤติกรรมเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับตับหรือไต การเคลื่อนไหวของลำไส้สุนัขของคุณเปลี่ยนไปหรือไม่ สิ่งนี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางเดินอาหาร โรคเบาหวาน หรือปัญหาการย่อยอาหารอาจทำให้สุนัขกินมากขึ้น แต่ก็ยังคงน้ำหนักลดอยู่ การรู้รูปแบบพฤติกรรมของสุนัขสามารถช่วยสัตวแพทย์กำหนดแนวทางการรักษาได้อย่างรวดเร็ว
ใช้ยาป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ทำความสะอาดฟันของสุนัขทุกวัน ถ้าสุนัขของคุณมีคราบหินปูนสะสมคุณอาจต้องพาเค้าไปพบสัตว์แพทย์ทำความสะอาดให้ ซึ่งคุณต้องคอยอยู่ปลอบใจเค้า
สุนัขของคุณอาจจะกระตือรือร้นน้อยลง ในช่วงนี้การออกกำลังกายปานกลางดีที่สุดสำหรับเค้า อย่าทำให้สุนัขกลายเป็น “นักรบสุดสัปดาห์” หลังจากที่นอนเล่นทั้งวันในวันธรรมดาพร้อมเดินป่าในระยะทาง 10 ไมล์ในวันเสาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขสูงวัยที่อาจส่งผลต่อข้อต่อของเค้า
สัตวแพทย์ของคุณหวังว่าคุณจะให้อาหารสูตรสุนัขสูงวัย อย่าง ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ ซีเนียร์ พลัส ซึ่งสูตรนี้มีสารอาหารเฉพาะสำหรับสุนัขสูงวัยให้มีสุขภาพที่ดี
การให้วิตามิน แร่ธาตุและส่วนประกอบทางโภชนาการอื่น ๆ แก่สุนัข มีความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัข วิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนี้คือการให้อาหารที่ครบถ้วนสมดุล และมีคุณภาพ การให้อาหารเสริมมักทำให้สุนัขเสียสมดุลและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมายได้
เจ้าของมักให้อาหารเสริมกับสุนัขด้วยเหตุผลที่ต่างกัน:
• เพื่อเพิ่มความอร่อย หรือ ความหลากหลาย
• เพื่อความมั่นใจว่าสุนัขจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
• เพื่ออยากที่จะป็นคนที่เตรียมมื้ออาหารให้สุนัขด้วยตัวเอง
นี่คือสิ่งสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องตระหนักว่า อาหารสุนัขที่มีคุณภาพนั้นได้รับการคิดค้นขึ้นมาอย่างรอบคอบต่อความต้องการแคลอรี่ของสัตว์ นอกจากนี้ในอาหารยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็น, กรดไขมัน, วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับตามความต้องการทางโภชนาการของสุนัข อาหารคุณภาพดีนั้นมีความครบถ้วนสมดุลอยู่แล้ว เหมาะสำหรับสุนัขแต่ละช่วงวัยหรือสุนัขในทุกไลฟ์สไตล์ การเพิ่มอาหารหรืออาหารเสริมอื่น ๆ อาจทำให้สารอาหารเสียความสมดุลได้
ปฏิกิริยาระหว่างแร่ธาตุต่างๆเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก โชคดีที่เหล่านักโภชนาการมีความมุ่งมั่นวิจัยมานานหลายปี การวิจัยแสดงให้แห็นว่าไม่ใช่แค่ระดับแร่ธาตุในอาหารมีความสำคัญ แต่รวมถึงความสมดุลที่เหมาะสม แร่ธาตุส่วนเกินชนิดหนึ่งอาจส่งผลต่อการดูดซึมของแร่ธาตุชนิดที่สอง และนำไปสู่การขาดแร่ธาตุชนิดที่สองได้
อาหารเสริมทั่วไปคือการเพิ่มเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเนื้อสัตว์มีฟอสฟอรัสมากกว่าแคลเซียม 20 ถึง 40 เท่า การเพิ่มเนื้อสัตว์ลงไปในอาหารที่สมดุล จะทำให้อัตราส่วนแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส (หรือ Ca: P) สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาและบำรุงกระดูกที่เหมาะสม นี่อาจทำให้ร่างกายของสัตว์ดูดซับแคลเซียมจากกระดูกเพื่อรักษาความสมดุล กรณีนี้มักเกิดขึ้นในสัตว์อายุมาก ที่มีการสูญเสียฟัน เนื่องจากการสลายของกระดูกจากกรามล่าง อัตราส่วน Ca: P ควรอยู่ในช่วงระหว่าง 1.1 ถึง 1.4 ส่วนของแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส 1 ส่วน
ปริมาณแคลเซียมมากเกินไปเกี่ยวข้องกับโรคกระดูกหลายโรคที่มีผลต่อลูกสุนัขที่กำลังเติบโต เจ้าของลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่เชื่อว่า ลูกสุนัขของพวกเค้าต้องการแคลเซียมสูงเพื่อการพัฒนากระดูกที่เห มาะสม การเพิ่มโยเกิร์ต คอทเทจชีส หรือแคลเซียมอัดเม็ดลงในอาหารของลูกสุนัขนั้นจะทำให้เสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย
จำไว้ว่าลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่จะกินอาหารมากขึ้นและได้รับแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการโดยกินในสัดส่วนที่แนะนำ วิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนอัตราการเติบโตตามปกติคือ การให้อาหารสุนัขที่เพียงพอ —แต่ไม่มากเกินไป—และควบคุมปริมาณอาหารให้สมดุล
สมาคมควบคุมการผลิตอาหารสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (AAFCO) ควบคุมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงและได้กำหนดข้อกำหนดด้านโภชนาการสำหรับสุนัขและแมว ข้อกำหนดเหล่านี้มีการเผยแพร่เป็นประจำทุกปีใน AAFCO Manual โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวดที่กำหนดโดย AAFCO เท่านั้น ที่สามารถใส่ข้อความ ''ครบถ้วนและสมดุล'' บนฉลากได้