แม้ว่าอาหารสัตว์เลี้ยงจะถูกคิดค้นเพื่อให้สารอาหารที่จำเป็นทั้งหมดที่สุนัขต้องการ แต่ถ้าพวกเค้าไม่กินอาหาร ก็คงไม่มีปรโยชน์อะไร อาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพได้รับการคิดค้นสูตรอย่างพิถีพิถันไม่เพียงแต่จะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่รสชาติจะต้องทำให้สุนัขพึงพอใจอีกด้วย
ความอร่อยเป็นคำที่ใช้อธิบายว่าสุนัขชอบรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสของอาหารได้ดีเพียงใด ผู้ผลิตอาหารสุนัขเกรดพรีเมียมใช้เวลาในการศึกษาการควบคุมการให้อาหารเพื่อกำหนดส่วนผสมและเทคนิคการแปรรูปที่เหมาะสม เพื่อผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อยไปพร้อมๆกัน
มีสองวิธีในการทดสอบและวัดความอร่อยของอาหารสุนัข:
อาหารคำแรก: การทดสอบความอร่อยที่เรียกว่า “ คำแรก ” ก็อร่อย สิ่งนี้วัดความประทับใจแรกของสุนัขที่มีต่อกลิ่นและลักษณะของอาหาร
ปริมาณรวม : เนื่องจากความแปลกใหม่ของอาหารใหม่สามารถทำให้การทดสอบคำแรกมีค่าทั้งสูงและต่ำ ในการทดสอบครั้งที่สองเรียกว่าการวัด '' ปริมาณรวม '' ปริมาณรวมเป็นตัวกำหนดพลังงานที่เหลืออยู่ หรือความสามารถในความน่าสนใจของสัตว์เมื่อเวลาผ่านไป นี่เป็นตัวเลือกอาหารโดยรวมของสุนัขโดยพิจารณาจากรสชาติ เนื้อสัมผัส และโภชนาการตลอดช่วงการทดสอบ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และตีความอย่างถูกต้อง การศึกษาความอร่อยต้องดำเนินการโดยนักเทคนิคการสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์ และข้อมูลที่วิเคราะห์โดยนักโภชนาการการวิจัย การศึกษาการให้อาหารดำเนินการโดยให้อาหารสัตว์สองชามในเวลาเดียวกัน แต่ละชามบรรจุอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งได้รับการชั่งน้ำหนักและบันทึกอย่างรอบคอบ
นักเทคนิคการสัตวแพทย์จะสังเกตอาหารที่สุนัขเลือกที่จะกินเป็นอันดับแรก จากนั้นบันทึกว่าเป็นสิ่งที่ชอบเป็นอันดับแรก หลังจากช่วงเวลาที่ถูกกำหนด ชามจะถูกยกออก และอาหารที่เหลือจะถูกชั่งน้ำหนักและบันทึก นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนอาหารจากซ้ายไปขวาในแต่ละวันของการศึกษา เพื่อให้แน่ใจว่าสุนัขไม่ได้กินอาหารจากนิสัยหรือความเคยชิน
การวัดปริมาณรวมถูกกำหนดโดยการคำนวณความแตกต่างระหว่างน้ำหนักเริ่มต้นและน้ำหนักสุดท้ายของอาหารแต่ละชนิด ในขั้นตอนนี้จะทำซ้ำไปมา โดยใช้อาหารสองรายการเดียวกันกับสุนัขกลุ่มเดียวกันเป็นเวลาห้าวัน ในตอนท้ายของห้าวันการศึกษา การสังเกตและข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมและวิเคราะห์เพื่อกำหนดความอร่อยของอาหาร
รสชาติของอาหารไม่เพียงแต่ดึงดูดสุนัขเท่านั้น แต่ยังมีรูปลักษณ์ กลิ่นและเนื้อสัมผัสด้วย สุนัขจะสนใจในกลิ่นอาหารเป็นพิเศษ
Liquid Digest นั้นเป็นเพียงโปรตีนที่ถูกย่อยโดยเอนไซม์ให้เป็นกรดอะมิโน ซึ่งเป็นองค์ประกอบของโปรตีน กระบวนการของเอนไซม์จะช่วยลดขนาดโปรตีนชิ้นใหญ่เป็นโปรตีนชิ้นเล็กและกรดอะมิโนอิสระ โดยการเพิ่มกรดจำนวนเล็กน้อย เอนไซม์หรือทางเดินอาหารจะหยุดทำปฏิกิริยา และส่วนผสมของเหลวที่เสถียรจะถูกผลิตออกมา หลังจากอาหารเม็ดปรุงสุกแล้ว จะถูกอัดเม็ด และทำให้แห้งอีกครั้ง Liquid Digest จะถูกฉีดพ่นทั่วทั้งหมดที่ด้านนอกของอาหารเม็ดแห้ง สิ่งนี้เรียกว่า“การเคลือบ” Liquid Digest ไม่เพียงทำให้อาหารอร่อยแต่ยังเพิ่มการช่วยย่อยอีกด้วย
ใช่ เราใช้ Liquid Digest ที่ทำจากไก่เพื่อเพิ่มความน่ากินของอาหารเม็ดและเพื่อสนับสนุนคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร อาหารสัตว์เลี้ยงบางชนิดเพิ่มรสชาติด้วยผงหัวหอม ซึ่งจะดับกลิ่นและรสชาติของส่วนผสมและไม่ให้ประโยชน์ทางโภชนาการแก่สัตว์
เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพโดยรวมของสุนัข เรามักจะมองข้ามสุขภาพของลำไส้ แต่ความจริงแล้ว ลำไส้มีความสำคัญไม่แพ้อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายเลย นี่ทำให้พรีไบโอติกและโปรไบโอติกเริ่มมีบทบาทมากขึ้น สองสิ่งนี้คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของสุนัข มันช่วยเสริมการย่อยอาหาร ต่อสู้กับเชื้อโรค และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
โปรไบโอติกมาจากคำภาษาละติน 'สำหรับ (pro)' และคำภาษากรีก 'ชีวิต (bio)' ซึ่งหมายถึง “สำหรับชีวิต” หรือ “ส่งเสริมชีวิต” โปรไบโอติกเป็นแบคทีเรียและยีสต์ชนิดดีซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพของสุนัข มันช่วยฟื้นฟูและรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ในร่างกายของสุนัขมีโปรไบโอติกอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อยคือ
หลายคนอาจสับสนและคิดว่าพรีไบโอติกคือตัวยับยั้งโปรไบโอติก แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองทำงานร่วมกัน พรีไบโอติกเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของโปรไบโอติก
โปรไบโอติกเป็นส่วนผสมที่จำเป็นในอาหารสุนัข และมีประโยชน์มากมาย เช่น
เราจะเสริมโปรไบติกให้สุนัขเมื่อความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากความเครียด การเปลี่ยนอาหาร หรือการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยความผิดปกตินี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น อาหารไม่ย่อย
โปรไบโอติกมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ด้วยการควบคุมปริมาณและปรับสมดุลแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้
นอกจากจะส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหารแล้ว โปรไบโอติกยังช่วยลดปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะ รวมถึงลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการท้องเสีย ทั้งนี้ในปี 2009 มีผลการศึกษาจากประเทศไอร์แลนด์ โดยพบว่าการเสริม “บิฟิโดแบคทีเรียม อะนิมอลิสสายพันธุ์เฉพาะ” (Bifidobacterium Animalis) ช่วยให้อาการท้องเสียหายเร็วขึ้น จากเจ็ดเหลือเพียงสี่วันเท่านั้น
คำตอบคือได้ โปรไบโอติกช่วยปรับสมดุลและพัฒนาระบบนิเวศของแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และลดการเกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก รวมไปถึงการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
จำเป็นมาก คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนให้โปรไบโอติกหรือพรีไบโอติกสุนัขเสมอ เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะมีคุณภาพสูงและมีได้มาตรฐาน สัตวแพทย์สามารถแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขของคุณได้
เนื่องจากพ่อแม่สุนัขให้ความสำคัญกับสุขภาพระบบทางเดินอาหารของสุนัขมากขึ้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรไบโอติกจึงมีบทบาทมากขึ้น ขอแนะนำไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมรูปแบบเม็ด มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวง่าย ที่สำคัญคือมีส่วนผสมของพรีไบโอติกและโปรไบโอติกที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีสุขภาพดี
อาการท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด หรืออาเจียน บ่งบอกถึงปัญหาในระบบทางเดินอาหาร หากน้องหมาของคุณมีอาการเหล่านี้ สามารถบรรเทาได้ด้วยการเสริมโปรไบโอติกที่มีบาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus Subtilis) และฟรุคโต โอลิโกแซคคาไรค์ (FOS) โปรไบโอติกทั้งสองชนิดจะช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในอุจจาระ ลดการผลิตแอมโมเนียและกลิ่นอุจจาระ พร้อมทั้งเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้
ประโยชน์ของโปรไบโอติกสำหรับสุนัขนั้นมีมากมาย ช่วยส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหาร ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของสุนัข การเสริมโปรไบโอติกจะช่วยให้น้องหมาสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น