IAMS TH
What’s the Difference Between Mature and Senior Dogs?
What’s the Difference Between Mature and Senior Dogs?

adp_description_block329
สุนัขโตเต็มวัยและสุนัขสูงวัยแตกต่างกันอย่างไร?

  • แบ่งปัน

การเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายเป็นตัวบ่งชี้ว่าสุนัขของคุณโตเต็มวัยแล้วหรือยัง ด้วยอายุที่มากขึ้น ระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานได้ช้าลง เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การซ่อมแซมส่วนสึกหรอกลับช้าลง แค่หากคุณดูแลพวกเค้าอย่างใกล้ชิด และเลือกให้อาหารสูตรเฉพาะที่เหมาะกับช่วงวัยของพวกเค้า ก็ช่วยจะให้พวกเค้ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้

เมื่อสุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น ควรหมั่นสังเกตสิ่งที่บ่งบอกถึงความชรา เช่น ผิวหนังหยาบ ผิวแห้งและลอกเป็นขุย ข้อต่อไม่แข็งแรง ไม่มีเรี่ยวแรง น้ำหนักเพิ่มขึ้น กินน้ำมากขึ้น มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหาร และท้องผูกบ่อยครั้ง อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากความชราหรืออาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรสังเกตเป็นประจำ และเมื่อพบสิ่งผิดปกติก็ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์

พันธุกรรมและสภาพแวดล้อมส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยของสุนัข โภชนาการเองก็เป็นส่วนที่สำคัญ การเลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพ จะช่วยให้สุนัขของุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ส่งผลให้พวกเค้ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

เมื่อสุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายก็มีประสิทธิภาพลดลง อาหารจึงกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่จะช่วยเสริมส่วนที่ร่างกายขาดแคลน อ้างอิงจากสัตวแพทย์และนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของสุนัขสูงวัย Michael Hayek กล่าวว่า สุนัขที่สูงวัยต้องการสารอาหารแบบเดียวกับสุนัขโตเต็มวัย เพียงแต่มีวิธีการให้อาหารและปริมาณที่ควรได้รับแตกต่างออกไป

  • Understanding Common Dog Food Ingredients
    Understanding Common Dog Food Ingredients
    adp_description_block275
    ทำความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนผสมอาหารสุนัขทั่วไป

    • แบ่งปัน

    สารอาหารนั้นแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อยคือ : โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุและน้ำ
     

    โปรตีนในอาหารสุนัข

    แหล่งโปรตีนของอาหารสุนัขทั่วไป ได้แก่ เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และส่วนผสมจากพืชบางชนิดเช่น ข้าวโพด กลูเตน และกากถั่วเหลือง

    เป็นที่รู้กันดีว่า กรดอะมิโนหรือโปรตีนนั้น ช่วยในการสร้างเส้นขน ผิวหนัง เล็บ กล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อ และช่วยในการเติบโตของกระดูก รวมไปถึงยังมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนในสุนัขอีกด้วย

    กรดอะมิโนที่จำเป็นในอาหารสุนัขนั้นนอกจากจะมาจากเนื้อแล้วยังต้องมาจากพืชอีกด้วย เช่นกากถั่วเหลืองเป็นต้น



    คาร์โบไฮเดรตในอาหารสุนัข

    แหล่งคาร์โบไฮเดรตโดยทั่วไปจะมาจากพืชและธัญพืช คาร์โบไฮเดรตจัดอยู่ในหมวดหมู่ของแป้ง (น้ำตาล) และจะได้พลังงานจากจากไฟเบอร์ตามลำดับ

    แป้ง (Starches ) ประกอบด้วยน้ำตาลหลายชนิดเช่น กลูโคส หรือฟรุกโตส โดยสุนัขสามารถเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานและนำมาใช้ได้

    ไฟเบอร์สามารถย่อยลงเป็นกรดไขมันสายสั้นโดยแบคทีเรียในลำไส้ของสุนัข แหล่งที่มาของไฟเบอร์ที่สามารถย่อยได้จะมาจาก ยางจากพืช ที่ให้กรดไขมันที่มีสายโซ่สั้นจำนวนที่สูง ไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์เช่น บีทพัลป์ จะให้กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid) และเพิ่มปริมาณสำหรับขับออกมาเป็นของไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์ได้น้อยเช่น เซลลูโลส จะเพิ่มขนาดเพื่อขับออกทางระบบขับถ่ายและจะให้กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid) เพียงเล็กน้อย



    ไขมันในอาหารสุนัข

    ไขมันพบได้ในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และน้ำมันพืชเช่น ไขมัน นั้นจะช่วยเติมเต็มการทำงานของร่างกายที่สำคัญหลายอย่าง ทั้งการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ การช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ควบคุมการอักเสบและอื่น ๆ ไขมันเป็นรูปแบบหลักของพลังงานสะสมในร่างกาย โดยไขมันนั้นให้พลังงานมากเป็นสองเท่าของคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน

    ไขมันยังมีหน่วยย่อยของไขมันที่สำคัญคือกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า -6 มีความจำเป็นสำหรับการบำรุงรักษาผิวหนังและเส้นขน กรดไขมันโอเมก้า -3 มีความสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและลดการอักเสบในสุนัข



    วิตามินและแร่ธาตุในอาหารสุนัข

    วิตามินมีหน้าที่ส่งเสริมการเติบโตของกระดูก การแข็งตัวของเลือด การผลิตพลังงาน และการป้องกันอนุมูลอิสระ

    วิตามิน A, D, E และ K ต้องการไขมันสำหรับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ในขณะที่วิตามินเช่นวิตามิน B-complex และวิตามินซีต้องการน้ำที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

    แร่ธาตุให้การบำรุงโครงสร้างกระดูกและช่วยในการสื่อสารของเส้นประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ

    Understanding Common Dog Food Ingredients
Close modal