การเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายเป็นตัวบ่งชี้ว่าสุนัขของคุณโตเต็มวัยแล้วหรือยัง ด้วยอายุที่มากขึ้น ระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานได้ช้าลง เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การซ่อมแซมส่วนสึกหรอกลับช้าลง แค่หากคุณดูแลพวกเค้าอย่างใกล้ชิด และเลือกให้อาหารสูตรเฉพาะที่เหมาะกับช่วงวัยของพวกเค้า ก็ช่วยจะให้พวกเค้ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้
เมื่อสุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น ควรหมั่นสังเกตสิ่งที่บ่งบอกถึงความชรา เช่น ผิวหนังหยาบ ผิวแห้งและลอกเป็นขุย ข้อต่อไม่แข็งแรง ไม่มีเรี่ยวแรง น้ำหนักเพิ่มขึ้น กินน้ำมากขึ้น มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหาร และท้องผูกบ่อยครั้ง อาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากความชราหรืออาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรสังเกตเป็นประจำ และเมื่อพบสิ่งผิดปกติก็ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์
พันธุกรรมและสภาพแวดล้อมส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยของสุนัข โภชนาการเองก็เป็นส่วนที่สำคัญ การเลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพ จะช่วยให้สุนัขของุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ส่งผลให้พวกเค้ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
เมื่อสุนัขของคุณมีอายุมากขึ้น การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายก็มีประสิทธิภาพลดลง อาหารจึงกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่จะช่วยเสริมส่วนที่ร่างกายขาดแคลน อ้างอิงจากสัตวแพทย์และนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของสุนัขสูงวัย Michael Hayek กล่าวว่า สุนัขที่สูงวัยต้องการสารอาหารแบบเดียวกับสุนัขโตเต็มวัย เพียงแต่มีวิธีการให้อาหารและปริมาณที่ควรได้รับแตกต่างออกไป
รู้ไหมว่าผิวหนังและเส้นขนบ่งบอกสุขภาพโดยรวมของสุนัขได้นะ ขนสุขภาพดีควรมีความมันเงาและเรียบเนียน ไม่หยาบหรือขาดง่าย ส่วนผิวหนังสุนัขที่แข็งแรงควรนุ่มและยืดหยุ่น ไม่มันเยิ้มหรือเป็นขุย โภชนาการที่ดีเป็นปัจจัยหลักในการรักษาสุขภาพผิวหนังและขน ควบคู่ไปกับการดูแลทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อลดอาการระคายเคืองและขนพันกัน
การดูแลสุขภาพผิวและขนของน้องหมาให้แข็งแรงไม่ใช่เรื่องยาก เรามาเรียนรู้เทคนิคดี ๆ ในการดูแลรักษา และทำความรู้จักอาหารบำรุงขนสุนัขไปด้วยกัน
เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพผิวหนังและขน สิ่งแรกที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่นึกถึงคือการกรูมมิ่งหรือการดูแลทำความสะอาด แต่มันไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียว โภชนาการก็มีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพผิวหนังและขนของสุนัขเช่นกัน
หากดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดีแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง อาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาจากภายใน ผิวที่แข็งแรงและขนที่สวยเงางามเริ่มต้นจากสุขภาพภายในร่างกาย หากน้องหมามีผิวแห้ง ลอกเป็นขุย มีรอยนูน รอยแผล หรือหมองคล้ำ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและปัญหาที่ซ่อนอยู่
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของสุนัข ผิวหนังส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยขนที่เติบโตและหลุดร่วงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เราต้องการอาหารคุณภาพดีเพื่อรักษาผิวหนังและเส้นขนให้แข็งแรง น้องหมาก็ควรได้รับแคลอรีในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันเพื่อรักษาระดับพลังงาน หากกินอาหารที่มีคุณภาพต่ำ ร่างกายจะใช้เวลาในการกำจัดของเสียนานขึ้น ทำให้ไตและตับทำงานหนักขึ้นสองเท่า
อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น โภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพผิวหนังและขนที่ดี น้องหมาที่ได้รับสารอาหารตรงตามความต้องการทุกวันจะมีผิวที่แข็งแรง อ่อนนุ่ม และมีขนสวยเงางามเป็นประกาย
พ่อแม่หลายคนอาจรู้สึกว่านี่เป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุด ในความเป็นจริง การบรรลุเป้าหมายนั้นค่อนข้างง่าย เพียงแค่ทำตามคำแนะนำเหล่านี้
โภชนาการที่เหมาะสม
วิธีง่าย ๆ เลยคือการให้อาหารสุนัขบำรุงขนและผิวหนัง สุนัขจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลเพื่อให้ผิวแข็งแรงและขนเงางาม อาหารที่ดีสำหรับผิวหนังสุนัขควรอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ และวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม แคลอรีในแต่ละวันก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้สุนัขมีพลังงานเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นขนและการผลัดเซลล์ผิว หากอาหารสุนัขย่อยง่ายหรือมีส่วนผสมคุณภาพต่ำ น้องหมาอาจได้รับพลังงานไม่เพียงพอ แนะนำให้เลือกอาหารสุนัขที่ส่วนผสมคุณภาพสูง และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
อาหารเสริม
นอกจากอาหารสุนัขบำรุงขนและผิวหนังแล้ว ปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากมายในท้องตลาด ซึ่งอาจทำให้พ่อแม่หลายคนรู้สึกสับสนว่าสารอาหารชนิดใดที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวและเส้นขนให้แข็งแรง เราขอแนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เพราะได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นหนึ่งในอาหารบำรุงขนสุนัขที่ดีที่สุด ช่วยให้น้องหมามีขนสวยเงางามและผิวหนังเรียบเนียน กรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่เพียงแต่เป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติอีกด้วย
อาบน้ำเป็นประจำ
การอาบน้ำเป็นการดูแลที่สำคัญ เนื่องจากช่วยกำจัดฝุ่น เศษสิ่งสกปรก รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ออกจากผิวหนังและขน โดยแนะนำให้อาบน้ำน้องหมาทุก ๆ 2 – 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความต้องการของสายพันธุ์ หรือทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำมากเกินไปเพราะอาจส่งผลให้ผิวและขนแห้ง หากน้องหมามีอาการแพ้หรือไม่ตอบสนองต่อแชมพูสำหรับสุนัข ควรปรึกษาสัตวแพทย์และค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับน้องหมาของคุณ
ป้องกันโรคภูมิแพ้และการติดเชื้อปรสิต
น้องหมาที่เป็นโรคภูมิแพ้มักจะมีผิวหนังอักเสบ ทำให้เกิดรอยแดงและอาการคัน เมื่อน้องหมาเกาตัวอย่างต่อเนื่องและรุนแรง เกราะป้องกันผิวหนังของพวกเค้าจะอ่อนแอ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย น่าเสียดายที่โรคภูมิแพ้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และทำได้เพียงรักษาเท่านั้น การเรียนรู้วิธีจัดการกับอาการแพ้จากสัตวแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
เห็บหมัดเป็นปรสิตที่พบบ่อยที่สุดในสุนัข มันเป็นตัวก่อให้เกิดอาการระคายเคือง อาการคัน และความไม่สบายตัว ทำให้น้องหมาเกา ข่วน และกัดผิวหนังของตัวเองอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ชั้นผิวหนังฉีกขาด ผิวแห้ง ระคายเคือง และบวมแดง นอกจากนี้เห็บหมัดยังเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพที่เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย ทางที่ดีควรป้องกันเห็บหมัดอย่างถูกวิธีและทำเป็นประจำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
การดูแลสุขภาพโดยรวม
การดูแลสุขภาพโดยรวมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพผิวและขนที่ดี น้องหมาควรได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลนั่นเอง รวมถึงต้องพักผ่อนและออกกำลังกายให้เพียงพอด้วย เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว รับรองเลยว่าน้องหมาของคุณจะมีผิวแข็งแรงและขนสวยเปล่งประกาย
พ่อแม่น้องหมาทุกคนควรให้ความสำคัญกับอาหารที่ดีสำหรับผิวหนังสุนัข รวมถึงทำความเข้าใจว่าสารอาหารชนิดใดที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวและเส้นขนให้แข็งแรง เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวน้อยจะมีสุขภาพผิวและขนที่ดี