IAMS TH
Understanding Puppy Food Nutrition Labels
Understanding Puppy Food Nutrition Labels

adp_description_block265
การทำความเข้าใจฉลากโภชนาการอาหารลูกสุนัข

การทำความเข้าใจฉลากโภชนาการอาหารลูกสุนัข

  • แบ่งปัน

'คุณรู้จักอาหารที่คุณซื้อให้ลูกสุนัขของคุณมากน้อยแค่ไหน เมื่อซื้ออาหารลูกสุนัข คุณควรให้ความใส่ใจกับฉลากอาหารสุนัขทั้งสามส่วนนี้

1. แถบส่วนผสม

ส่วนนี้แสดงรายการส่วนผสมทั้งหมดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ ส่วนผสมที่ระบุไว้ในลำดับจากมากไปน้อยตามน้ำหนักก่อนปรุงอาหาร หากคุณมองหาแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงจากสัตว์เช่น เนื้อไก่ หรือเนื้อแกะ เช่น สุนัขกินโปรตีนจากสัตว์เพื่อเจริญเติบโตสามารถอ่านได้จากตรงส่วนนี้

ผู้ผลิตที่ใช้โปรตีนจากพืชในปริมาณมากอาจช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิตอาหาร— แต่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม — ทางโภชนาการ คุณควรหลีกอาหารสุนัขที่ผ่านการแต่งสีและรสชาติเทียมเนื่องจากไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการกับสุนัข

 

2. การวิเคราะห์สารอาหาร

ใกล้แถบส่วนผสมต้องมีแผนผังเปอร์เซ็นต์สารอาหารที่เรียกว่า ''การวิเคราะห์สารอาหาร'' ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสารอาหารพื้นฐานของสูตรอาหารสุนัขและปริมาณโปรตีน อาหารสุนัขที่มีคุณภาพควรระบุเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำของโปรตีนและไขมัน และเปอร์เซ็นต์สูงสุดของไฟเบอร์และความชื้น (น้ำ) เอาไว้ด้วย

 

3. ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิต

ข้อมูลนี้จะต้องรวมอยู่ในฉลากตามกฎหมาย เบอร์คอลเซนเตอร์หรือที่อยู่เว็บสำหรับผู้ผลิตอาจมีการระบุไว้ ผู้ผลิตที่แสดงหมายเลขโทรศัพท์เช่น ไอแอมส์™ ยินดีรับสายและตอบคำถามของผู้บริโภค หากคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไอแอมส์™  โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราหรือโทรหาเราโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่หมายเลข 800-525-4267'

 article understanding puppy food nutrition header
  • Does My Dog Need Additional Vitamins?
    Does My Dog Need Additional Vitamins?
    adp_description_block185
    สุนัขต้องการวิตามินเพิ่มเติมหรือไม่

    • แบ่งปัน

    การให้วิตามิน แร่ธาตุและส่วนประกอบทางโภชนาการอื่น ๆ แก่สุนัข มีความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัข วิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนี้คือการให้อาหารที่ครบถ้วนสมดุล และมีคุณภาพ การให้อาหารเสริมมักทำให้สุนัขเสียสมดุลและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมายได้

     

    เหตุผลว่าทำไมเจ้าของถึงมักให้อาหารเสริมแก่สุนัข

    เจ้าของมักให้อาหารเสริมกับสุนัขด้วยเหตุผลที่ต่างกัน:

    • เพื่อเพิ่มความอร่อย หรือ ความหลากหลาย
    • เพื่อความมั่นใจว่าสุนัขจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
    • เพื่ออยากที่จะป็นคนที่เตรียมมื้ออาหารให้สุนัขด้วยตัวเอง 

     

    อาหารเสริมสามารถทำให้อาหารไม่สมดุล

    นี่คือสิ่งสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องตระหนักว่า อาหารสุนัขที่มีคุณภาพนั้นได้รับการคิดค้นขึ้นมาอย่างรอบคอบต่อความต้องการแคลอรี่ของสัตว์ นอกจากนี้ในอาหารยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็น, กรดไขมัน, วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับตามความต้องการทางโภชนาการของสุนัข อาหารคุณภาพดีนั้นมีความครบถ้วนสมดุลอยู่แล้ว เหมาะสำหรับสุนัขแต่ละช่วงวัยหรือสุนัขในทุกไลฟ์สไตล์ การเพิ่มอาหารหรืออาหารเสริมอื่น ๆ อาจทำให้สารอาหารเสียความสมดุลได้

     

    สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับแร่ธาตุและอาหารเสริม

    ปฏิกิริยาระหว่างแร่ธาตุต่างๆเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก โชคดีที่เหล่านักโภชนาการมีความมุ่งมั่นวิจัยมานานหลายปี การวิจัยแสดงให้แห็นว่าไม่ใช่แค่ระดับแร่ธาตุในอาหารมีความสำคัญ แต่รวมถึงความสมดุลที่เหมาะสม แร่ธาตุส่วนเกินชนิดหนึ่งอาจส่งผลต่อการดูดซึมของแร่ธาตุชนิดที่สอง และนำไปสู่การขาดแร่ธาตุชนิดที่สองได้

     

    การเสริมด้วยเนื้อสัตว์เป็นตัวอย่างของปฏิกิริยาระหว่างแร่

    อาหารเสริมทั่วไปคือการเพิ่มเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเนื้อสัตว์มีฟอสฟอรัสมากกว่าแคลเซียม 20 ถึง 40 เท่า การเพิ่มเนื้อสัตว์ลงไปในอาหารที่สมดุล จะทำให้อัตราส่วนแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส (หรือ Ca: P) สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาและบำรุงกระดูกที่เหมาะสม นี่อาจทำให้ร่างกายของสัตว์ดูดซับแคลเซียมจากกระดูกเพื่อรักษาความสมดุล กรณีนี้มักเกิดขึ้นในสัตว์อายุมาก ที่มีการสูญเสียฟัน เนื่องจากการสลายของกระดูกจากกรามล่าง อัตราส่วน Ca:  P ควรอยู่ในช่วงระหว่าง 1.1 ถึง 1.4 ส่วนของแคลเซียมต่อฟอสฟอรัส 1 ส่วน

     

    แคลเซียมมากไปไม่ได้ดีเสมอไป

    ปริมาณแคลเซียมมากเกินไปเกี่ยวข้องกับโรคกระดูกหลายโรคที่มีผลต่อลูกสุนัขที่กำลังเติบโต เจ้าของลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่เชื่อว่า ลูกสุนัขของพวกเค้าต้องการแคลเซียมสูงเพื่อการพัฒนากระดูกที่เห มาะสม การเพิ่มโยเกิร์ต คอทเทจชีส หรือแคลเซียมอัดเม็ดลงในอาหารของลูกสุนัขนั้นจะทำให้เสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย 

    จำไว้ว่าลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่จะกินอาหารมากขึ้นและได้รับแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการโดยกินในสัดส่วนที่แนะนำ วิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนอัตราการเติบโตตามปกติคือ การให้อาหารสุนัขที่เพียงพอ —แต่ไม่มากเกินไป—และควบคุมปริมาณอาหารให้สมดุล

     

    ควรมั่นใจว่าอาหารสุนัขนั้นสมบูรณ์และสมดุล

    สมาคมควบคุมการผลิตอาหารสัตว์แห่งสหรัฐอเมริกา (AAFCO) ควบคุมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงและได้กำหนดข้อกำหนดด้านโภชนาการสำหรับสุนัขและแมว ข้อกำหนดเหล่านี้มีการเผยแพร่เป็นประจำทุกปีใน AAFCO Manual โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวดที่กำหนดโดย AAFCO เท่านั้น ที่สามารถใส่ข้อความ ''ครบถ้วนและสมดุล'' บนฉลากได้

Close modal