IAMS TH
Tips for Feeding Your Adult Dog
Tips for Feeding Your Adult Dog

adp_description_block199
เคล็ดลับในการให้อาหารสุนัขโตเต็มวัย

  • แบ่งปัน

สุนัขแต่ละตัวมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อเลือกอาหารสำหรับพวกเค้า คุณจะต้องคำนึงถึงสายพันธุ์ ขนาด อายุ น้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ของสุนัขด้วย และสำหรับสุนัขที่อยู่ในช่วงโตเต็มวัย พวกเค้าจะกินอาหารในปริมาณที่มากขึ้น โดย Madan Khare, DVM ได้แนะนำเพิ่มเติมว่าการให้อาหารสุนัขวัยนี้ควรจำกัดการให้อาหารเพียงวันละ 1-2 ครั้งขึ้นอยู่กับกิจกรรมของเค้า โดยปริมาณการให้อาหารในแต่ละวันคุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์หรืออ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์ได้

เมื่อลูกสุนัขของคุณเริ่มเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย เจ้าของก็ควรเปลี่ยนอาหารให้พวกเค้าด้วย (เช่นไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรสุนัขโตเต็มวัย) โดยการเปลี่ยนอาหารสุนัข คุณจะต้องค่อย ๆ เปลี่ยน และนี่ก็คือตารางเวลาสำหรับการเปลี่ยนจากอาหารสำหรับลูกสุนัขเป็นอาหารสำหรับสุนัขโตเต็มวัย

วันที่ 1: ให้อาหารสำหรับลูกสุนัขในปริมาณ 75% และให้อาหารสำหรับสุนัขโตเต็มวัยในปริมาณ 25%

วันที่ 2: ให้อาหารทั้งสองชนิดในปริมาณ 50%

วันที่ 3: ให้อาหารสำหรับสุนัขโตเต็มวัยในปริมาณ 75% และให้อาหารสำหรับลูกสุนัขในปริมาณ 25%

วันที่ 4: ให้สำหรับสุนัขโตเต็มวัยในปริมาณเต็ม 100%

การให้อาหารสุนัขที่เต็มไปด้วยโปรตีนที่มีคุณภาพทั้งจากเนื้อไก่ เนื้อแกะ และปลา พร้อมกับให้สารอาหารจำเป็นอย่างครบถ้วน จะทำให้พวกเค้ามีความสุขและมีสุขภาพที่ดี

นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณไม่ควรให้อาหารมนุษย์แก่พวกเค้า เนื่องจากจะทำให้เสียสมดุลในระบบการย่อยอาหาร รวมไปถึงการให้ขนมหรือบิสกิตควรมองหาขนมที่มีน้ำตาล เกลือ และไขมันในปริมาณที่ค่ำ และสุดท้ายนี้อย่าลืมให้พวกเค้ากินน้ำสะอาดควบคู่กับการกินอาหารที่ดีด้วย

  • สารอาหารที่สำคัญในอาหารสุนัข
    สารอาหารที่สำคัญในอาหารสุนัข
    adp_description_block145
    สารอาหารที่สำคัญในอาหารสุนัข

    • แบ่งปัน

    สารอาหารนั้นแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อยคือ : โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุและน้ำ

     

    โปรตีน

    แหล่งโปรตีนของอาหารสุนัขทั่วไป ได้แก่ เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และส่วนผสมจากพืชบางชนิดเช่น ข้าวโพด กลูเตน และกากถั่วเหลือง

    เป็นที่รู้กันดีว่า กรดอะมิโนหรือโปรตีนนั้น ช่วยในการสร้างเส้นขน ผิวหนัง เล็บ กล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อ และช่วยในการเติบโตของกระดูก รวมไปถึงยังมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนในสุนัขอีกด้วย

    สุนัขเป็นสัตว์กินเนื้อ ดังนั้นกรดอะมิโนที่จำเป็นนอกจากจะมาจากเนื้อแล้วยังต้องมาจากพืชอีกด้วย
    เช่นกากถั่วเหลืองเป็นต้น

     

    คาร์โบไฮเดรต

    แหล่งคาร์โบไฮเดรตโดยทั่วไปจะมาจากพืชและธัญพืช  คาร์โบไฮเดรตจัดอยู่ในหมวดหมู่ของแป้ง (น้ำตาล) และจะได้พลังงานจากจากไฟเบอร์ตามลำดับ

    แป้ง (Starches ) ประกอบด้วยน้ำตาลหลายชนิดเช่น กลูโคส หรือฟรุกโตส โดยสุนัขสามารถเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานและนำมาใช้ได้

     

    ไฟเบอร์

    ไฟเบอร์สามารถย่อยลงเป็นกรดไขมันสายสั้นโดยแบคทีเรียในลำไส้ของสุนัข  แหล่งที่มาของไฟเบอร์ที่สามารถย่อยได้จะมาจาก ยางจากพืช ที่ให้กรดไขมันที่มีสายโซ่สั้นจำนวนที่สูง ไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์เช่น บีทพัลป์ จะให้กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid) และเพิ่มปริมาณสำหรับขับออกมาเป็นของไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์ได้น้อยเช่น เซลลูโลส จะเพิ่มขนาดเพื่อขับออกทางระบบขับถ่ายและจะให้กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid) เพียงเล็กน้อย

     

    น้ำ

    น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับร่างกาย หากไม่มีน้ำ ร่างกายจะไม่สามารถส่งสารอาหาร ย่อยสารอาหารให้เป็นพลังงานได้ รวมไปถึงน้ำยังช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายสุนัขได้อีกด้วย

     

    ไขมัน

    ไขมันพบได้ในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และน้ำมันพืชเช่น  ไขมัน นั้นจะช่วยเติมเต็มการทำงานของร่างกายที่สำคัญหลายอย่าง  ทั้งการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์  การช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ควบคุมการอักเสบและอื่น ๆ  ไขมันเป็นรูปแบบหลักของพลังงานสะสมในร่างกาย โดยไขมันนั้นให้พลังงานมากเป็นสองเท่าของคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน

    ไขมันยังมีความสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและลดการอักเสบในสุนัขได้อีกด้วย

     

    วิตามิน และแร่ธาตุ

    วิตามินมีหน้าที่ส่งเสริมการเติบโตของกระดูก การแข็งตัวของเลือด การผลิตพลังงาน และการป้องกันอนุมูลอิสระ วิตามิน A, D, E และ K ต้องการไขมันสำหรับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ในขณะที่วิตามินเช่นวิตามิน B-complex และวิตามินซีต้องการน้ำที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

    แร่ธาตุให้การบำรุงโครงสร้างกระดูกและช่วยในการสื่อสารของเส้นประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ

Close modal