IAMS TH
Why Your Dog Needs Antioxidants
Why Your Dog Needs Antioxidants

adp_description_block17
ทำไมสุนัขต้องการสารต้านอนุมูลอิสระ

ทำไมสุนัขต้องการสารต้านอนุมูลอิสระ

  • แบ่งปัน

'สุนัขของคุณต้องการสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง นี่คือเหตุผลที่อาหารสุนัขของ ไอแอมส์™ ทุกสูตรมีระดับสารอาหารเหล่านี้อย่างเหมาะสม

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารอาหารที่สำคัญที่ช่วยรักษาสุขภาพด้วยการชะลอกระบวนการชราภาพของโมเลกุลเซลล์  และมีความสำคัญในการซ่อมแซมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและการรับรู้วัคซีนในสุนัข นี่อาจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับลูกสุนัขที่ได้รับการฉีดวัคซีนในขณะที่ระบบภูมิคุ้มกันยังคงพัฒนา และสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในสุนัขโตได้อีกด้วย

 

สารต้านอนุมูลอิสระพบได้ที่ไหน

 

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารอาหารที่พบตามธรรมชาติในร่างกาย และในพืชเช่น ผักและผลไม้ สารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป ได้แก่ วิตามิน A วิตามิน C วิตามิน E และสารประกอบบางชนิดที่เรียกว่าแคโรทีนอยด์ (เช่นลูทีนและเบต้าแคโรทีน)

 

สารต้านอนุมูลอิสระทำงานอย่างไร

 

สารต้านอนุมูลอิสระนั้นมีหน้าที่ปรับโครงสร้างของสารอนุมูลอิสระให้เกิดความสมดุลและเป็นกลาง ซึ่งจะช่วยลดและป้องกันความเสียหายที่เกิดกับเซลล์ ส่งผลให้ร่างกายระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ

กระบวนการนี้เรียกว่า peroxidation Peroxidation มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อโรคและปรสิต อย่างไรก็ตาม เมื่อ peroxidation ถูกปล่อยทิ้งไว้ ก็จะทำลายเซลล์ที่ดีได้เช่นกัน

สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการทำลายเซลล์อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาอนุมูลอิสระให้คงที่ ที่สำคัญกว่านั้นสารต้านอนุมูลอิสระจะกลับไปที่ผิวของเซลล์เพื่อสร้างความมั่นคงแทนที่จะทำลายส่วนประกอบอื่น ๆ ของเซลล์

เมื่อมีสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอที่จะตรวจสอบการเกิดอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระจะเริ่มทำลายเซลล์ที่มีสุขภาพดีซึ่งในทางกลับกันอาจนำไปสู่ปัญหา ตัวอย่างเช่นความเสียหายอนุมูลอิสระต่อเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันสามารถนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อได้

 

สารต้านอนุมูลอิสระและการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน

 

สารต้านอนุมูลอิสระนั้นมีบทบาทสำคัญในการลดความเสียหายต่อเซลล์มนุษย์ ผลการศึกษาพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญในการช่วยให้สุนัขรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้เช่นกัน

 

สารต้านอนุมูลอิสระ (ANTIOXIDANT)แหล่งที่มาการทำงาน
วิตามิน Eสารสกัดจากพืช น้ำมันโทโคฟีรอลการกระตุ้น T-cell ของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ลูทีนสารสกัดจากดอกดาวเรืองการกระตุ้น B-cell ของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและช่วยให้สุนัขและแมวตอบสนองวัคซีน
เบต้าแคโรทีวิตามิน ข้าวโพด ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่และไขมันไก่เพิ่มประสิทธิภาพเซลล์ที่มีอยู่ในเลือดเพิ่มระดับแอนติบอดีในเลือดและเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองวัคซีนในสุนัข

 

สารต้านอนุมูลอิสระและสุขภาพลูกสุนัข

 

การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันตามปกติมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อลูกสุนัข ระบบภูมิคุ้มกันยังคงพัฒนาในเวลาที่ถูกกระตุ้นด้วยการฉีดวัคซีนและการสัมผัสกับตัวการทำให้เกิดโรค ด้วยการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ อาหารลูกสุนัขที่มีคุณภาพสูงสามารถรองรับการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยรักษาสุขภาพที่ดีและป้องกันไวรัสแบคทีเรียและปรสิตได้

 

สารต้านอนุมูลอิสระและความชรา

 

การวิจัยล่าสุดยังทดลองเกี่ยวกับผลของความชราที่มีต่อการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ผลการวิจัยระบุว่าเมื่อสุนัขมีอายุมากขึ้น การตอบสนองของเซลล์ภูมิคุ้มกันอาจลดลง การรวมสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารสามารถลดการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันได้'

  • 5 วิธีดูแลผิวหนังและขนให้สุนัข
    5 วิธีดูแลผิวหนังและขนให้สุนัข
    adp_description_block30
    5 วิธีดูแลผิวหนังและขนให้สุนัข

    • แบ่งปัน

    รู้ไหมว่าผิวหนังและเส้นขนบ่งบอกสุขภาพโดยรวมของสุนัขได้นะ ขนสุขภาพดีควรมีความมันเงาและเรียบเนียน ไม่หยาบหรือขาดง่าย ส่วนผิวหนังสุนัขที่แข็งแรงควรนุ่มและยืดหยุ่น ไม่มันเยิ้มหรือเป็นขุย โภชนาการที่ดีเป็นปัจจัยหลักในการรักษาสุขภาพผิวหนังและขน ควบคู่ไปกับการดูแลทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อลดอาการระคายเคืองและขนพันกัน

     

    การดูแลสุขภาพผิวและขนของน้องหมาให้แข็งแรงไม่ใช่เรื่องยาก เรามาเรียนรู้เทคนิคดี ๆ ในการดูแลรักษา และทำความรู้จักอาหารบำรุงขนสุนัขไปด้วยกัน
     

    สารอาหารช่วยเสริมสุขภาพผิวหนังและขนของสุนัขได้อย่างไร?

    เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพผิวหนังและขน สิ่งแรกที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่นึกถึงคือการกรูมมิ่งหรือการดูแลทำความสะอาด แต่มันไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียว โภชนาการก็มีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพผิวหนังและขนของสุนัขเช่นกัน 
     

    หากดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดีแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง อาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาจากภายใน ผิวที่แข็งแรงและขนที่สวยเงางามเริ่มต้นจากสุขภาพภายในร่างกาย หากน้องหมามีผิวแห้ง ลอกเป็นขุย มีรอยนูน รอยแผล หรือหมองคล้ำ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและปัญหาที่ซ่อนอยู่
     

    ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของสุนัข ผิวหนังส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยขนที่เติบโตและหลุดร่วงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เราต้องการอาหารคุณภาพดีเพื่อรักษาผิวหนังและเส้นขนให้แข็งแรง น้องหมาก็ควรได้รับแคลอรีในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันเพื่อรักษาระดับพลังงาน หากกินอาหารที่มีคุณภาพต่ำ ร่างกายจะใช้เวลาในการกำจัดของเสียนานขึ้น ทำให้ไตและตับทำงานหนักขึ้นสองเท่า
     

    อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น โภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการมีสุขภาพผิวหนังและขนที่ดี น้องหมาที่ได้รับสารอาหารตรงตามความต้องการทุกวันจะมีผิวที่แข็งแรง อ่อนนุ่ม และมีขนสวยเงางามเป็นประกาย 
     

    เคล็ดลับดูแลผิวและขนของสุนัขให้แข็งแรง

    พ่อแม่หลายคนอาจรู้สึกว่านี่เป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุด ในความเป็นจริง การบรรลุเป้าหมายนั้นค่อนข้างง่าย เพียงแค่ทำตามคำแนะนำเหล่านี้

    • โภชนาการที่เหมาะสม

    วิธีง่าย ๆ เลยคือการให้อาหารสุนัขบำรุงขนและผิวหนัง สุนัขจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลเพื่อให้ผิวแข็งแรงและขนเงางาม อาหารที่ดีสำหรับผิวหนังสุนัขควรอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ และวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม แคลอรีในแต่ละวันก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อให้สุนัขมีพลังงานเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นขนและการผลัดเซลล์ผิว หากอาหารสุนัขย่อยง่ายหรือมีส่วนผสมคุณภาพต่ำ น้องหมาอาจได้รับพลังงานไม่เพียงพอ แนะนำให้เลือกอาหารสุนัขที่ส่วนผสมคุณภาพสูง และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ 

    • อาหารเสริม

    นอกจากอาหารสุนัขบำรุงขนและผิวหนังแล้ว ปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากมายในท้องตลาด ซึ่งอาจทำให้พ่อแม่หลายคนรู้สึกสับสนว่าสารอาหารชนิดใดที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวและเส้นขนให้แข็งแรง เราขอแนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เพราะได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นหนึ่งในอาหารบำรุงขนสุนัขที่ดีที่สุด ช่วยให้น้องหมามีขนสวยเงางามและผิวหนังเรียบเนียน กรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่เพียงแต่เป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติอีกด้วย

    • อาบน้ำเป็นประจำ

    การอาบน้ำเป็นการดูแลที่สำคัญ เนื่องจากช่วยกำจัดฝุ่น เศษสิ่งสกปรก รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ออกจากผิวหนังและขน โดยแนะนำให้อาบน้ำน้องหมาทุก ๆ 2 – 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความต้องการของสายพันธุ์ หรือทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำมากเกินไปเพราะอาจส่งผลให้ผิวและขนแห้ง หากน้องหมามีอาการแพ้หรือไม่ตอบสนองต่อแชมพูสำหรับสุนัข ควรปรึกษาสัตวแพทย์และค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับน้องหมาของคุณ

    • ป้องกันโรคภูมิแพ้และการติดเชื้อปรสิต

    น้องหมาที่เป็นโรคภูมิแพ้มักจะมีผิวหนังอักเสบ ทำให้เกิดรอยแดงและอาการคัน เมื่อน้องหมาเกาตัวอย่างต่อเนื่องและรุนแรง เกราะป้องกันผิวหนังของพวกเค้าจะอ่อนแอ ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย น่าเสียดายที่โรคภูมิแพ้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และทำได้เพียงรักษาเท่านั้น การเรียนรู้วิธีจัดการกับอาการแพ้จากสัตวแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
     

    เห็บหมัดเป็นปรสิตที่พบบ่อยที่สุดในสุนัข มันเป็นตัวก่อให้เกิดอาการระคายเคือง อาการคัน และความไม่สบายตัว ทำให้น้องหมาเกา ข่วน และกัดผิวหนังของตัวเองอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ชั้นผิวหนังฉีกขาด ผิวแห้ง ระคายเคือง และบวมแดง นอกจากนี้เห็บหมัดยังเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพที่เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย ทางที่ดีควรป้องกันเห็บหมัดอย่างถูกวิธีและทำเป็นประจำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

    • การดูแลสุขภาพโดยรวม

    การดูแลสุขภาพโดยรวมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพผิวและขนที่ดี น้องหมาควรได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลนั่นเอง รวมถึงต้องพักผ่อนและออกกำลังกายให้เพียงพอด้วย เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว รับรองเลยว่าน้องหมาของคุณจะมีผิวแข็งแรงและขนสวยเปล่งประกาย
     

    พ่อแม่น้องหมาทุกคนควรให้ความสำคัญกับอาหารที่ดีสำหรับผิวหนังสุนัข รวมถึงทำความเข้าใจว่าสารอาหารชนิดใดที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวและเส้นขนให้แข็งแรง เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าตัวน้อยจะมีสุขภาพผิวและขนที่ดี

Close modal