สำหรับเจ้าของสุนัขเมื่อเป็นเรื่องการทำหมัน บางครั้งก็อาจจะมีความไม่แน่ใจหรือขาดข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเรื่องค่าใช้จ่าย ระยะเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการผสมพันธุ์ของสุนัข เราจึงรวบรวมข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำหมันลูกสุนัขมาให้คุณ
· สำหรับสุนัขเพศเมีย เมื่อทำหมันแล้วก็จะหมดปัญหาเรื่องการเป็นสัดในรอบ 21 วัน ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกๆ 6 เดือน โดยอาการติดสัดในสุนัขเพศเมียจะเริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือนเป็นต้นไป
ทำหมันเมื่อไหร่ดีนะ?
สุนัขจะเริ่มทำหมันได้เมื่ออายุ 6 เดือนเป็นต้นไป ทั้งนี้ขั้นตอนในการทำหมันจะมีการดมยาสลบและอาจต้องพักค้างคืน แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะ เพราะพวกเค้าจะใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ส่วนใหญ่ก็จะกลับมาทำกิจกรรมตามปกติได้ภายในไม่กี่วัน โดยการทำหมันในเพศเมียคือการตัดรังไข่และมดลูกออก ส่วนในเพศผู้จะตัดอัณฑะและท่อนำอสุจิออก
ทั้งนี้เมื่อคุณต้องการทำหมันให้สุนัข ควรไปปรึกษาสัตวแพทย์ถึงขั้นตอนและความพร้อมของสุนัขก่อน
สารอาหารนั้นแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อยคือ : โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุและน้ำ
แหล่งโปรตีนของอาหารสุนัขทั่วไป ได้แก่ เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และส่วนผสมจากพืชบางชนิดเช่น ข้าวโพด กลูเตน และกากถั่วเหลือง
เป็นที่รู้กันดีว่า กรดอะมิโนหรือโปรตีนนั้น ช่วยในการสร้างเส้นขน ผิวหนัง เล็บ กล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อ และช่วยในการเติบโตของกระดูก รวมไปถึงยังมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนในสุนัขอีกด้วย
สุนัขเป็นสัตว์กินเนื้อ ดังนั้นกรดอะมิโนที่จำเป็นนอกจากจะมาจากเนื้อแล้วยังต้องมาจากพืชอีกด้วย
เช่นกากถั่วเหลืองเป็นต้น
แหล่งคาร์โบไฮเดรตโดยทั่วไปจะมาจากพืชและธัญพืช คาร์โบไฮเดรตจัดอยู่ในหมวดหมู่ของแป้ง (น้ำตาล) และจะได้พลังงานจากจากไฟเบอร์ตามลำดับ
แป้ง (Starches ) ประกอบด้วยน้ำตาลหลายชนิดเช่น กลูโคส หรือฟรุกโตส โดยสุนัขสามารถเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานและนำมาใช้ได้
ไฟเบอร์สามารถย่อยลงเป็นกรดไขมันสายสั้นโดยแบคทีเรียในลำไส้ของสุนัข แหล่งที่มาของไฟเบอร์ที่สามารถย่อยได้จะมาจาก ยางจากพืช ที่ให้กรดไขมันที่มีสายโซ่สั้นจำนวนที่สูง ไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์เช่น บีทพัลป์ จะให้กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid) และเพิ่มปริมาณสำหรับขับออกมาเป็นของไฟเบอร์ที่ย่อยได้โดยจุลินทรีย์ได้น้อยเช่น เซลลูโลส จะเพิ่มขนาดเพื่อขับออกทางระบบขับถ่ายและจะให้กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid) เพียงเล็กน้อย
น้ำเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับร่างกาย หากไม่มีน้ำ ร่างกายจะไม่สามารถส่งสารอาหาร ย่อยสารอาหารให้เป็นพลังงานได้ รวมไปถึงน้ำยังช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายสุนัขได้อีกด้วย
ไขมันพบได้ในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และน้ำมันพืชเช่น ไขมัน นั้นจะช่วยเติมเต็มการทำงานของร่างกายที่สำคัญหลายอย่าง ทั้งการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ การช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ควบคุมการอักเสบและอื่น ๆ ไขมันเป็นรูปแบบหลักของพลังงานสะสมในร่างกาย โดยไขมันนั้นให้พลังงานมากเป็นสองเท่าของคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน
ไขมันยังมีความสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและลดการอักเสบในสุนัขได้อีกด้วย
วิตามินมีหน้าที่ส่งเสริมการเติบโตของกระดูก การแข็งตัวของเลือด การผลิตพลังงาน และการป้องกันอนุมูลอิสระ วิตามิน A, D, E และ K ต้องการไขมันสำหรับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ในขณะที่วิตามินเช่นวิตามิน B-complex และวิตามินซีต้องการน้ำที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
แร่ธาตุให้การบำรุงโครงสร้างกระดูกและช่วยในการสื่อสารของเส้นประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ