ในช่วง 6 เดือนแรก ลูกสุนัขของคุณจะมีการเปลี่ยนอาหารที่รวดเร็ว คุณเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และวิธีการเลี้ยงลูกสุนัขโดยพิจารณาจากพัฒนาการที่สำคัญที่ลูกสุนัขจะได้สัมผัส
ทำไมการเรียนรู้พัฒนาการของลูกสุนัขจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
เนื่องจากความแตกต่างของสายพันธุ์และบุคลิกของลูกสุนัขแต่ละตัว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถรู้ได้แน่นอนว่าวันไหนหรือเมื่อไหร่การเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกสุนัขจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเรียนรู้ได้จากเหตุการณ์สำคัญต่อไปนี้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเจริญเติบโต , ปัญหาทางพัฒนาการที่สามารถสังเกตเห็นและป้องกันได้ในช่วงแรก เมื่อรู้ถึงเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ คุณก็จะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ลูกสุนัขพร้อมที่จะหย่านมแล้ว
พัฒนาการของลูกสุนัข
เมื่อลูกสุนัขของคุณพร้อมที่จะเริ่มหย่านมแล้ว (โดยพิจารณาจากอายุ สุนัขที่กินนมแม่จะพร้อมหย่านมช่วงอายุ 4 สัปดาห์ และสุนัขที่ไม่มีแม่คอยเลี้ยงจะพร้อมหย่านมช่วงอายุ 3 สัปดาห์) โดยสามารถทำให้สุนัขหย่านมได้ที่ละขั้นตอน ดังนี้:
| อายุ | พัฒนาการของลูกสุนัข |
| อายุ 7-10 วัน | ลูกสุนัขจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มเป็นสองเท่าจากแรกคลอด ลูกสุนัขเริ่มปัสสาวะและถ่ายอุจจาระด้วยตัวเอง |
| อายุ 10-18 วัน | ลูกสุนัขพยายามที่จะยืน ดวงตาของลูกสุนัขเริ่มเปิด หูของลูกสุนัขเริ่มเปิด |
| อายุ 18-21 วัน | ลูกสุนัขได้ยินและตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน ลูกสุนัขเริ่มเดิน |
| อายุ 3 สัปดาห์ | เริ่มหย่านมสำหรับลูกสุนัขกำพร้า ลูกสุนัขเริ่มเปล่งเสียงตอบสนอง ฟันน้ำนม (ทารก) จะเริ่มขึ้น |
| อายุ 4 สัปดาห์ | เริ่มกระบวนการหย่านมสำหรับลูกสุนัขที่เลี้ยงด้วยนมแม่ |
| อายุ 3 - 6 เดือน | ฟันแท้ของลูกสุนัขเริ่มขึ้น |
วิธีหย่านมลูกสุนัขด้วยไอแอมส์™
1. ให้เตรียมจานตื่น ๆ และใส่น้ำไว้เล็กน้อย โดยส่วนใหญ่แล้วลูกสุนัขจะชอบเล่นน้ำ ในช่วง 4-5 วัน ลูกสุนัขจะเริ่มมีพัฒนาการในการเลียกินน้ำจากจาน แต่ในลูกสุนัขบางตัวอาจต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกนานกว่านี้ ดังนั้น คุณอย่าเพิ่งท้อแท้ถ้าหากว่าลูกสุนัขจะต่อต้านการฝึกการในน้ำในชาม
2. เริ่มต้นผสมไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรลูกสุนัข สูตรดังเดิมกับน้ำ อย่าลืมเตรียมจานสำหรับน้ำสะอาดเอาไว้ให้ลูกสุนัขกินด้วย
3. ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณของอาหาร ไปพร้อม ๆ กับลดปริมาณน้ำในส่วนผสมจนกว่าลูกสุนัขของคุณจะกินอาหารได้เต็มที่
4. ทำขั้นตอนเดิมเหมือนผสมอาหารไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรลูกสุนัข ในปริมาณที่เหมาะสมแล้วเพิ่มอาหารเม็ดในขณะที่ลดปริมาณอาหารอ่อนลงจนกว่าการเปลี่ยนได้สมบูรณ์
กระบวนการทั้งหมดควรใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์


เชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นน้องหมาเจ็บปวด มีอาการตัวสั่น อึดอัด หรือรู้สึกไม่สบายตัว เรารู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้ทำให้พ่อแม่ปวดใจเสมอ
หลาย ๆ คนก็คงตกใจเมื่อน้องหมาอาเจียนหรือมีอาการท้องเสีย รวมถึงสงสัยว่าทำไมน้องหมาถึงอาเจียน น้องหมาท้องเสียเป็นเพราะอะไร? แล้วอาการแบบใดที่บ่งบอกถึงปัญหาที่ร้ายแรง? เรามาหาคำตอบและทำความเข้าใจอาการเหล่านี้ไปด้วยกัน
การอาเจียนเป็นปัญหาทั่วไปที่พบได้บ่อยและเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย มันคือการขับของเหลวในกระเพาะหรือลำไส้ส่วนบนของสุนัขอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้เกิดขึ้นก่อน เช่น น้ำลายไหล เลียริมฝีปาก และกลืนน้ำลายมากผิดปกติ สาเหตุของการอาเจียนไม่ได้ร้ายแรงทุกครั้งไป อาจเป็นเพราะน้องหมากินอาหารเร็วเกินหรือกลืนกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป แต่ในบางกรณีก็เป็นสัญญาณเตือนของปัญหาที่น่ากังวล เช่น การได้รับสารพิษ หรือการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องหมาท้องเสียนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากปัจจัยเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง อาการท้องไส้ปั่นป่วนในทางการแพทย์จะเรียกว่ากระเพาะและลำไส้อักเสบ โดยเกิดจากการอักเสบหรือการระคายเคือง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน การแพ้อาหาร การกินสิ่งแปลกปลอม การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส รวมถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น ตับอ่อนอักเสบหรือไตวาย
พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจสับสนระหว่างการอาเจียนกับการสำรอก โดยทั่วไปแล้วการสำรอกจะเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารไม่นาน และเป็นอาการที่ไม่ต้องเกร็งช่องท้อง อาหารที่ไม่ได้ย่อยจะถูกขับออกมาทางปากโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ในทางกลับกัน การอาเจียนจะอาเจียนเกี่ยวข้องกับการหดตัวของช่องท้อง ส่งผลให้อาหารที่ย่อยแล้วบางส่วนผสมกับน้ำดีถูกขับออกมา
แน่นอนว่าอาการปวดท้องทำให้น้องหมารู้สึกแย่และไม่สบายตัว พ่อแม่จึงควรทำความเข้าใจลักษณะอาการเพื่อดูแลและบรรเทาความเจ็บปวดได้ทันท่วงที โดยอาการที่พบบ่อยมีดังนี้
ในกรณีที่รุนแรง น้องหมาอาจแสดงอาการเหล่านี้
หากน้องหมามีอาการเจ็บปวด เบื่ออาหาร แสดงอาการขาดน้ำ มีไข้ หรือมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย กระสับกระส่าย หรือตัวสั่น ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงปัญหาที่ควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ในกรณีที่รุนแรง อาการท้องเสียอาจทำให้น้องหมาน้ำหนักลดและอาเจียนบ่อย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคตับหรือไต ตับอ่อนอักเสบ และโรคมะเร็ง แนะนำให้หมั่นสังเกตพฤติกรรมและอาการเครียดในสุนัข เนื่องจากมักจะทำให้อาการรุนแรงขึ้นหรือกระตุ้นให้เกิดปัญหากระเพาะอาหาร
สำหรับการรักษาอาการสุนัขท้องเสีย วิธีรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุเป็นส่วนใหญ่ เช่น หากสุนัขถ่ายเหลวจากการเปลี่ยนอาหารหรือการกินอาหารเร็วเกินไป สามารถดูแลรักษาที่บ้านได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการร้ายแรงอื่น ๆ ร่วมด้วย แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพิ่มเติม
เมื่อสุนัขท้องเสีย วิธีรักษาทั่วไปคือ
รู้หรือไม่? การเสริมโพรไบโอติกเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันที่ดีที่สุด ขอแนะนำไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมรูปแบบเม็ดเพื่อสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินอาหาร อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ใช่การรักษาแต่เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราว หากน้องหมาท้องเสียหรืออาเจียนอย่างต่อเนื่อง ควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กอย่างละเอียด
ในบางกรณีที่สุนัขท้องเสีย รักษาเบื้องต้นได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่หากเกิดขึ้นบ่อยหรือมีอาการรุนแรงก็จำเป็นต้องไปพบสัตวแพทย์ อายุและสุขภาพโดยรวมของสุนัขก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลรักษาเช่นกัน การตรวจพบอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้การรักษาง่ายขึ้นและลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยได้ หากน้องหมาอาเจียนหลายครั้งในหนึ่งวัน อาเจียนเสมหะบ่อย หรืออาการไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ควรพาพวกเค้าไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว
อาหารปรุงเอง เช่น เนื้อไก่ มันฝรั่งต้ม และข้าว เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสุนัขท้องเสีย แต่ไม่ควรให้ติดต่อกันในระยะยาว เพราะสุนัขอาจได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนตามที่ต้องการ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการให้อาหารดิบ เนื่องจากมีเชื้อโรคที่เป็นอันตราย เช่น ซัลโมเนลลา ทางที่ดีควรปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์เพื่อความปลอดภัยของน้องหมาที่คุณรัก
สุนัขท้องร้องโครกคราก วิธีแก้มีอะไรบ้าง? นอกจากการปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์แล้ว คุณสามารถให้อาหารเสริมเพื่อสุขภาพระบบทางเดินอาหารได้ด้วย ลองเลย! ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมรูปแบบเม็ดเพื่อสุขภาพที่ดีของระบบทางเดินอาหาร มีส่วนประกอบของพรีไบโอติกและโพรไบโอติกที่เป็นประโยชน์กับลำไส้ เนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวง่าย ปราศจากสารสังเคราะห์ สารปรุงแต่งกลิ่นรส และวัตถุกันเสีย จึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเสริมสร้างสุขภาพทางเดินอาหารของสุนัขได้เป็นอย่างดี
การทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาอาการอาเจียนและท้องเสียของสุนัข จะช่วยให้น้องหมามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หากคุณมีข้อสงสัยหรือความกังวลใจ อย่าลังเลที่จะปรึกษาสัตวแพทย์