1. พบสัตวแพทย์
ก่อนที่คุณเริ่มควบคุมน้ำหนักให้สุนัข ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน เพื่อตรวจเช็กสุขภาพอย่างละเอียดและหาวิธีที่เหมาะสม
2. ดูแลเรื่องอาหารให้ดี
ขนมและอาหารของคนอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณมีน้ำหนักเกิน Eldredge กล่าวว่า หากการลดปริมาณมื้ออาหารระหว่างมื้อไม่ได้ผล ให้ลองเปลี่ยนสูตรอาหารแต่ให้ในปริมาณเท่า สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำได้
3. ให้พวกเค้ากินผักบ้าง
ถั่วเขียว ฟักทอง และแครอท เป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำเหมาะจะเป็นของว่างสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ
4. ลดปริมาณแต่ไม่ลดจำนวนครั้ง
จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า สุนัขสามารถนับจำนวนครั้งได้มากถึงหกหรือเจ็ดครั้ง Eldredge กล่าว หากพวกเค้าคุ้นเคยกับการได้รับบิสกิตสองชิ้นก็ให้แบ่งบิสกิตหนึ่งชิ้นเป็นสองส่วนแทน โดยการนับของพวกเค้า นั่นเท่ากับว่ายังคงได้รับรางวัลสองชิ้นเท่าเดิม!
5. ให้รางวัลแบบใหม่
แน่นอนว่าสุนัขชอบที่ได้กินขนมแสนอร่อย แต่ในขณะเดียวกันพวกเค้าก็ชอบการเดินเล่น การเล่นสนุก หรือได้ทำกิจกรรมกับคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการให้รางวัลจากการให้ขนมเป็นอาหารเม็ดสองสามเม็ดแทน
6. ทำแบบทดสอบความหิว
สุนัขของคุณชอบมองคุณด้วยตาใสใสในตอนที่คุณกำลังกินขนมหรืออาหารกันไหม พวกเค้าอาจจะไม่ได้หิวก็ได้ ลองให้อาหารเม็ดกับพวกเค้าดู หากพวกเค้าไม่ยอมกิน นั่นแปลว่าพวกเค้าไม่ได้หิวแต่อยากกินขนมในมือคุณต่างหากล่ะ
7. ชั่งน้ำหนัก
หากสุนัขของคุณมีน้ำหนักที่ต้องลดลงอีกเพียงไม่กี่กิโลกรัม มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะวัดว่าพวกเค้ามีความก้าวหน้าหรือไม่ ให้ลองชั่งน้ำหนักบ่อยๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
การเปลี่ยนอาหารสุนัขเป็นอาหารใหม่ต้องใช้การวางแผน เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่มีนิสัยคงเส้นคงวา ชอบอาหารปัจจุบันที่มีอยู่แล้วเช่นเดียวกับเรา พวกเค้าคุ้นเคยกับอาหารเดิมและอาจไม่ตื่นเต้นกับกิจวัตรใหม่ ๆ เคล็ดลับการให้อาหารสุนัขเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขของคุณพึงพอใจ
เมื่อสุนัขของคุณผ่อนคลายพร้อมเปลี่ยนอาหาร ให้คำนึงว่า “ช้าและมั่นคง” เริ่มต้นด้วยการผสมอาหารใหม่ 25% กับอาหารเดิม 75% ปรับสัดส่วนอย่างช้า ๆ ในอีก 3 วันข้างหน้าโดยค่อย ๆ เพิ่มอาหารใหม่และลดปริมาณอาหารเดิม นี่คือตารางการให้อาหารตัวอย่าง :
• วันที่ 1: อาหารใหม่ 25%, อาหารเดิม 75%
• วันที่ 2: อาหารใหม่ 50%, อาหารเดิม 50%
• วันที่ 3: อาหารใหม่ 75%, อาหารเดิม 25%
ในตอนท้ายของกระบวนการเปลี่ยนอาหารนี้ คุณควรให้อาหารใหม่ 100% สุนัขของคุณอาจต้องการกินอาหารเดิมอย่างเดียว หรือไม่กินเลย ไม่ต้องกังวล คุณต้องใช้ความอดทนซักหน่อย เค้าอาจจะไม่กินอาหารได้หนึ่งหรือสองวันโดยไม่ส่งผลให้ป่วย
เมื่อนำอาหารใหม่เข้าไปในบ้านของคุณ ให้เทลงในชามสุนัขของคุณและบอกว่าเค้าควรกินมัน อาจทำให้สุนัขของคุณหิวโหย แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะแสดงว่าใครเป็นเจ้านาย มันดีกว่าที่จะแนะนำอาหารใหม่โดยใช้น้ำเสียงที่ไพเราะ และกระตุ้นให้เขาลองอาหารใหม่
ความเพียรพยายามเป็นกุญแจสำคัญ! ในช่วงสองวันแรกของการเปลี่ยนอาหาร อย่าให้ขนมหรืออาหารเพิ่ม สุนัขเองก็ฝึกเราเท่าที่เราฝึกเค้า การยอมแพ้ต่อความต้องการของเค้า ทำให้เค้าปฏิเสธซ้ำ ๆ และนั่นทำให้ยากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
การเปลี่ยนอาหารอาจมีความท้าทายมากขึ้น เมื่อเปลี่ยนจากอาหารเปียกเป็นอาหารเม็ด หากสุนัขของคุณยังคงต่อต้านการกินอาหารเม็ดให้ผสมในน้ำอุ่นเล็กน้อย คุณอาจต้องอุ่นอาหารเปียกในไมโครเวฟสักสองสามวินาที หากคุณผสมอาหารกับน้ำ อย่าลืมทิ้งเศษอาหารที่ยังไม่ได้กินหลังจาก 20 นาทีเพื่อป้องกันการเน่าเสีย กฎเดียวกันนี้สามารปรับใช้กับอาหารกระป๋องและอาหารซอง หลังจากที่สุนัขคุ้นเคยกับอาหารเปียกแล้ว คุณก็สามารถเปลี่ยนเค้าให้กินอาหารแห้งได้ การทำเช่นนี้ให้ทำตามคำแนะนำการผสมที่อธิบายไว้ข้างต้น

