IAMS TH
How to Track Your Puppy's Health in the First Year
How to Track Your Puppy's Health in the First Year

adp_description_block417
การติดตามลูกสุนัขของคุณในปีแรก

  • แบ่งปัน

'ขอแสดงความยินดีด้วย! คุณเป็นเจ้าของสุนัขที่น่าภาคภูมิใจ สิ่งสำคัญคือการทำตามขั้นตอนนี้เพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพลูกสุนัขนั้นดีเยี่ยม Louise Murray, DVM ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ Bergh Memorial ASPCA ในนิวยอร์กซิตี้และผู้เขียน Vet Confidential (Ballantine, 2008) เสนอสิ่งที่จะชี้วัดถึงสุขภาพของสุนัขของคุณในปีแรก

สุขภาพของลูกสุนัข: การดูแลป้องกัน

สอบถามเพื่อน ๆ เพื่อค้นหาสัตวแพทย์ที่คุณเชื่อถือได้ ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนำลูกสุนัขกลับบ้านให้พาเขาไปตรวจสุขภาพ แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและเริ่มเก็บประวัติทางการแพทย์อย่างละเอียด 

 

สุขภาพของลูกสุนัข: วัคซีน

การให้วัคซีนมากเกินไปกับสุนัขเป็นประเด็นร้อนในปัจจุบัน, Murray กล่าว คำถามก็คือควรใช้วัคซีนชนิดใดและบ่อยแค่ไหน ''วัคซีนหลัก'' - สำหรับพาร์โวไวรัส, โรคไข้หัดสุนัข, อะดิโนไวรัสประเภท 2 และโรคพิษสุนัขบ้า – เป็นวัคซีนหลักสำคัญที่สุนัขต้องได้รับ “การฉีดยาเหล่านี้ปกป้องสุนัขของคุณจากโรคอันตรายต่าง ๆ” เธอกล่าวไว้ อาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติมซึ่งต้องพิจารณาจากสิ่งแวดล้อมที่คุณอาศัยอยู่ คุณพาสุนัขของคุณไปที่ไหนและคุณพาสุนัขเดินทางหรือไม่

 

สุขภาพของลูกสุนัข: อาหาร

เลือกแบรนด์อาหารสุนัขที่มีชื่อเสียงและไว้ใจได้และพูดคุยสอบถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับตัวเลือกต่าง ๆ ในปีแรกลูกสุนัขของคุณจะต้องกินอาหารสูตรสำหรับลูกสุนัข และอาจต้องกินอาหารวันจะ 3 ครั้ง

 

สุขภาพของลูกสุนัข: การทำหมัน

มาตรการที่ยอดเยี่ยมในการจัดการกับประชากรสุนัขที่มากเกินไปก็คือการทำหมัน ซึ่งควรดำเนินการในช่วงอายุ 4 ถึง 5 เดือนซึ่งเป็นช่วงก่อนที่สุนัขเพศเมียจะเข้าสู่ช่วงเป็นสัดครั้งแรก และก่อนที่สุนัขเพศผู้จะเข้าสู่วัยหนุ่ม Murray กล่าวว่า สุนัขเพศเมียที่ถูกทำหมันก่อนที่จะเป็นสัดมีโอกาสน้อยที่จะเป็นมะเร็งเต้านมถึง 2,000 เท่า เพศผู้ที่ถูกตอนก่อนเข้าสู่วัยแรกรุ่นมีปัญหาด้านพฤติกรรมน้อยลงเช่น ความก้าวร้าวต่อสุนัขตัวอื่น และปัสสาวะเรี่ยราดอีกด้วย

 

สุขภาพของลูกสุนัข: ยาหมัด เห็บ และหนอนหัวใจ

สุนัขส่วนใหญ่ควรกินยาตลอดปีเพื่อป้องกันโรคหนอนหัวใจซึ่งเป็นกาฝากที่คุกคามชีวิต Murray กล่าวไว้ หมัดมักถูกมองว่าเป็นเพียงความรำคาญ แต่จริงๆมันสามารถทำให้เกิดปัญหาผิวที่รุนแรงและโรคโลหิตจางได้ และเห็บทำให้เกิดหลายโรค (รวมถึงโรคไลม์และโรค Rocky mountain spotted fever) ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหานี้'

  • พรีไบโอติก และโปไบโอติกสำหรับสุนัข
    พรีไบโอติก และโปไบโอติกสำหรับสุนัข
    adp_description_block357
    พรีไบโอติก และโปไบโอติกสำหรับสุนัข

    • แบ่งปัน

    เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพโดยรวมของสุนัข เรามักจะมองข้ามสุขภาพของลำไส้ แต่ความจริงแล้ว ลำไส้มีความสำคัญไม่แพ้อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายเลย นี่ทำให้พรีไบโอติกและโปรไบโอติกเริ่มมีบทบาทมากขึ้น สองสิ่งนี้คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของสุนัข มันช่วยเสริมการย่อยอาหาร ต่อสู้กับเชื้อโรค และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

     

    โปรไบโอติกคืออะไร?

    โปรไบโอติกมาจากคำภาษาละติน 'สำหรับ (pro)' และคำภาษากรีก 'ชีวิต (bio)' ซึ่งหมายถึง “สำหรับชีวิต” หรือ “ส่งเสริมชีวิต” โปรไบโอติกเป็นแบคทีเรียและยีสต์ชนิดดีซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพของสุนัข มันช่วยฟื้นฟูและรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ในร่างกายของสุนัขมีโปรไบโอติกอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อยคือ

    • แลคโตบาซิลลัส เอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus Acidophilus)
    • เอ็นเทอโรค็อคคัส ฟีเชียม (Enterococcus Faecium)
    • บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (Bifidobacterium Lactis)
    • แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ (Lactobacillus Casei)
    • บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว (Bifidobacterium Breve)

    พรีไบโอติกคืออะไร?

    หลายคนอาจสับสนและคิดว่าพรีไบโอติกคือตัวยับยั้งโปรไบโอติก แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองทำงานร่วมกัน พรีไบโอติกเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของโปรไบโอติก
     

    ประโยชน์ของโปรไบโอติก

    โปรไบโอติกเป็นส่วนผสมที่จำเป็นในอาหารสุนัข และมีประโยชน์มากมาย เช่น

    • ช่วยเสริมระบบย่อยอาหาร
    • เสริมระบบภูมิคุ้มกัน
    • ต่อสู้กับแบคทีเรียที่เป็นอันตราย
    • บรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น อาการท้องเสียและลำไส้อักเสบ
    • ป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
    • ช่วยเสริมสมดุลของอารมณ์

    เราจะเสริมโปรไบติกให้สุนัขเมื่อความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากความเครียด การเปลี่ยนอาหาร หรือการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยความผิดปกตินี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น อาหารไม่ย่อย

     

    โปรไบโอติกช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและท้องไส้ปั่นป่วนได้หรือไม่?

    โปรไบโอติกมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ด้วยการควบคุมปริมาณและปรับสมดุลแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้

     

    นอกจากจะส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหารแล้ว โปรไบโอติกยังช่วยลดปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะ รวมถึงลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการท้องเสีย ทั้งนี้ในปี 2009 มีผลการศึกษาจากประเทศไอร์แลนด์ โดยพบว่าการเสริม “บิฟิโดแบคทีเรียม อะนิมอลิสสายพันธุ์เฉพาะ” (Bifidobacterium Animalis) ช่วยให้อาการท้องเสียหายเร็วขึ้น จากเจ็ดเหลือเพียงสี่วันเท่านั้น

     

    ให้โปรไบโอติกลูกสุนัขได้หรือไม่?

    คำตอบคือได้ โปรไบโอติกช่วยปรับสมดุลและพัฒนาระบบนิเวศของแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และลดการเกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก รวมไปถึงการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

     

    จำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนให้โปรไบโอติกสุนัขหรือไม่?

    จำเป็นมาก คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนให้โปรไบโอติกหรือพรีไบโอติกสุนัขเสมอ เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะมีคุณภาพสูงและมีได้มาตรฐาน สัตวแพทย์สามารถแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขของคุณได้ 

     

    ควรเลือกโปรไบโอติกให้สุนัขอย่างไร?

    เนื่องจากพ่อแม่สุนัขให้ความสำคัญกับสุขภาพระบบทางเดินอาหารของสุนัขมากขึ้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรไบโอติกจึงมีบทบาทมากขึ้น ขอแนะนำไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ อาหารเสริมรูปแบบเม็ด มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เคี้ยวง่าย ที่สำคัญคือมีส่วนผสมของพรีไบโอติกและโปรไบโอติกที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีสุขภาพดี

     

    อาการท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืด หรืออาเจียน บ่งบอกถึงปัญหาในระบบทางเดินอาหาร หากน้องหมาของคุณมีอาการเหล่านี้ สามารถบรรเทาได้ด้วยการเสริมโปรไบโอติกที่มีบาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus Subtilis) และฟรุคโต โอลิโกแซคคาไรค์ (FOS) โปรไบโอติกทั้งสองชนิดจะช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในอุจจาระ ลดการผลิตแอมโมเนียและกลิ่นอุจจาระ พร้อมทั้งเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้

     

    ประโยชน์ของโปรไบโอติกสำหรับสุนัขนั้นมีมากมาย ช่วยส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหาร ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของสุนัข การเสริมโปรไบโอติกจะช่วยให้น้องหมาสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น

Close modal