หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของสุนัขต้องเจอ คือปัญหาขนร่วง แต่ปัญหานี้สามารถจัดการได้นะ
ปัจจัยหลักของปัญหานี้หนึ่งในนั้นคือเรื่องของสายพันธุ์ สุนัขอย่างเช่นสายพันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย หรือพุดเดิ้ล ที่มีขนชั้นเดียว ก็มักจะไม่ค่อยเจอปัญหานี้ ซึ่งสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ก็จะเหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีปัญหาภูมิแพ้ แต่ถ้าคุณเป็นภูมิแพ้และไม่ได้เลี้ยงน้องหมาที่ขนไม่ร่วงละก็ มาเริ่มจัดการปัญหาขนร่วงในสุนัขกันเถอะ
การผลัดขนของสุนัขนั้นจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยสุนัขจะผลัดขนในช่วงฤดูร้อน เจ้าของอย่างเราจึงจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของการแปรงขนของพวกเค้าไว้ให้พร้อม เมื่อเข้าสู่ฤดูผลัดขนแบบนี้
เราควรที่จะแปรงขนสุนัขบ่อยขึ้นเพื่อช่วยเอาขนที่หมดอายุออกไปให้หมด
ในช่วงฤดูร้อนนั้นสุนัขจะมีขนที่ร่วงมากกว่าในฤดูหนาว อย่าลืมว่ากุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาก็คือการแปรงขนและการดูดฝุ่นและขนไปทิ้งก็สำคัญเช่นกัน หากคุณเตรียมตัวอย่างดี ช่วงเวลาขนร่วงเหล่านี้ก็จะผ่านไปได้อย่างหมดกังวล
เส้นขนของสุนัขนั้นเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน 30% ของโปรตีนที่สุนัขต้องการ จะถูกนำไปใช้กับการดูแลผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี ดังนั้นถ้าสุนัขไม่ได้รับโภชนาการอาหารที่เหมาะสม ร่างกายของสุนัขก็จะนำโปรตีนไปใช้ในการเจริญเติบโตก่อน นั้นทำให้ผิวหนังและเส้นของพวกเค้าไม่สวยงามสุขภาพไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น
นอกจากขนที่มีสุขภาพที่ดีแล้ว ขนของสุนัขนั้นควรที่จะต้องหลุดร่วงน้อยลงอีกด้วย อาหารสุนัขพรีเมียมอย่างเช่นไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ จะมีสารอาหารที่เพียงพอและจำเป็นที่จะช่วยให้สุขภาพขนของสุนัขนั้นดีขึ้นและหลุดร่วงน้อยลง
การแปรงฟัน - การแปรงฟันให้สุนัขนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัว คุณควรฝึกพวกเค้าเพลิดเพลินไปกับการแปรงฟัน ให้คำชม หรือให้ขนมเพื่อเป็นรางวัลหลังการแปรงฟัน วิธีที่ง่ายที่สุดคือเริ่มฝึกเค้าตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขอยู่ แต่สุนัขที่โตแล้วก็ยังสามารถฝึกฝนให้คุ้นเคยกับการแปรงฟันได้เช่นกัน
การแปรงขน - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกแปรงที่เหมาะสมกับเส้นขนของพวกเค้า สุนัขที่มีขนที่หนาหรือขนสองชั้นจะต้องใช้แปรงที่ทำมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงสุนัขที่สายพันธุ์มีขนที่ยาวก็ต้องหวีขนพวกเค้าอย่างระมัดระวังเช่นกัน
การอาบน้ำ – การอาบน้ำให้สุนัขนั้น ไม่ควรบ่อยจนเกินไปเพราะอาจจะไปชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติที่มีประโยชน์จากตัวสุนัขได้ และอาจจะทำให้ผิวหนังและเส้นขนแห้งจนเกินไป และอาจส่งผลให้มีขนหลุดร่วงอีกด้วย
การดูแลเพียงเล็กน้อยแต่เห็นผลลัพท์อย่างยั่งยืน
การดูแลสุนัขของคุณสามารถช่วยควบคุมการหลุดร่วงของเส้นขนได้ การแปรงขนก็สามารถช่วยได้ส่วนหนึ่งหรือการให้อาหารอย่างไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ ก็จะช่วยให้คุณหมดกังวลในเรื่องของปัญหาขนร่วงได้เช่นกัน
ลูกสุนัขตัวเล็กพร้อมนำความสุขมาให้พวกเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าบ้าน และการดูแลพวกเค้าอย่างดีก็กลายเป็นนิสัยติดตัวของเรา เชื่อว่าเจ้าของหลาย ๆ คนอาจมีคำถามว่า “เราควรดูแลลูกสุนัขอย่างไรดี?” บอกได้เลยว่าการดูแลลูกสุนัขนั้นแสนง่ายดาย หากรู้วิธีที่ถูกต้อง ซึ่งไอแอมส์ได้รวบรวมคำตอบและเทคนิคดี ๆ อีกมากมายมาให้คุณแล้ว
เจ้าตัวน้อยสี่ขาต้องการอาหารที่ดีมีคุณภาพ และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพราะพวกเค้าช่างเปราะบาง มีโอกาสเจ็บป่วยและติดโรคร้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีนิสัยชอบเคี้ยวสิ่งของต่าง ๆ จึงต้องคอยระมัดระวังไม่ให้กลืนสิ่งของอันตรายลงท้อง และควรจัดเตรียมของเล่นสำหรับกัดแทะไว้ให้พวกเค้าแทน
หากเลือกให้อาหารคุณภาพดีตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข พวกเค้าก็จะเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย การดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มันช่วยลดความเสี่ยงในการล้มป่วยและการมีปัญหาสุขภาพลง นอกจากนี้ควรพาน้องหมาไปออกกำลังกายเป็นประจำ หากไม่ได้ออกกำลังหรือไม่ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเลย อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ ซึ่งทั้งสองข้อนี้คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน
ตารางพัฒนาการนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยของเจ้าตัวน้อยที่แสนน่ารักได้ดียิ่งขึ้น:
พัฒนาการลูกสุนัข | 0-7 สัปดาห์ | 7-8 สัปดาห์ | 8-10 สัปดาห์ | 8-16 สัปดาห์ | 4-6 เดือน | 6-12 เดือน | 12-18 เดือน |
ลักษณะการเปลี่ยนแปลง | ลูกสุนัขเริ่มเรียนรู้พฤติกรรมทางสังคม เช่น การกัด การยอมจำนน การให้ความสนใจ และการโต้ตอบกับน้องหมาตัวอื่น | เป็นช่วงวัยที่ดีที่สุดในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเจ้าของ | ถือเป็นช่วงเวลาที่ลูกสุนัขอ่อนแอที่สุด อาจเรียกอีกอย่างว่า 'ช่วงเวลาแห่งความกลัว' เป็นการดีที่สุดหากช่วยให้ลูกสุนัขมีประสบการณ์เชิงบวก | สามารถเริ่มฝึกทักษะต่าง ๆ ได้แล้วในช่วงนี้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการลงโทษขณะฝึก | ลูกสุนัขจะมีความมั่นใจ และต้องการอิสระมากขึ้น | เป็นช่วงเวลาในการปลดปล่อยพลังงาน ควรจัดหากิจกรรมมาให้พวกเค้าทำแก้เบื่อด้วยนะ | เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยนี้ ลูกสุนัขจะเริ่มมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคงขึ้น |
เริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานให้พวกเค้าได้แล้ว | ควรปลอบโยนเวลาที่พวกเค้ารู้สึกกลัวหรือเสียใจ | สามารถทำหมันได้เมื่อมีอายุ 6 เดือน | ควรเตรียมของเล่นที่หลากหลายไว้ให้พร้อม | ในช่วงนี้ น้องหมาจะพยายามขึ้นเป็นจ่าฝูง และพยายามยืนยันสถานะของตัวเอง |
การต้อนรับลูกสุนัขมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องจัดการหลังพาพวกเค้าเข้าบ้านแล้ว และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้การดูแลนั้นง่ายขึ้น: