IAMS TH
How to Decipher Dog-Food Labels: Calorie and Fat Terms
How to Decipher Dog-Food Labels: Calorie and Fat Terms

adp_description_block360
วิธีอ่านฉลากอาหารสุนัขอย่างถูกต้อง: ปริมาณแคลอรีและไขมัน

  • แบ่งปัน

'ความแตกต่างระหว่างอาหารแคลอรี่น้อยและแคลอรี่ต่ำคืออะไร

ผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขที่ระบุว่ามีแคลอรี่น้อยหรือแคลอรี่ต่ำ จะต้องเป็นไปตามระดับแคลอรี่ที่กำหนดโดยสมาคม American Feed Control Officials (AAFCO) ในขณะที่อาหารสุนัขที่ระบุว่า ''แคลอรี่น้อยลง'' หรือ ''แคลอรี่ลดลง'' จะต้องแสดงเปอร์เซ็นต์แคลอรี่ที่ชัดเจน มีการเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่เดียวกัน ตารางต่อไปนี้แสดงแนวทางที่กำหนดโดย AAFCO สำหรับอาหารสุนัขและแมว เพื่อพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่ระบุข้อความเหล่านี้ได้

 

ประเภทของอาหารปริมาณน้ำในอาหาร

ปริมาณไขมัน

ในอาหารสุนัข KCAL

ME / KG

  ปริมาณไขมัน

ในอาหารแมว KCAL

ME / KG

อาหารเม็ดความชื้นน้อยกว่า 20%

3,100

3,250

อาหารเปียก

ระหว่าง 20 และ 64% ความชื้น2,5002,650
อาหารเปียกแบบบรรจุกระป๋องความชื้น 65% หรือมากกว่า900950

 

ความแตกต่างระหว่างอาหารสุนัขลีนกับไขมันลดลงคืออะไร

อาหารแคลอรี่น้อยและแคลอรี่ต่ำผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขแบบลีนหรือไขมันต่ำจะต้องตรงตามระดับไขมันที่กำหนดโดย AAFCO และผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขที่มีไขมันน้อยหรือไขมันลดจำเป็นต้องแสดงเปอร์เซ็นต์ไขมันที่ลดลงเมื่อเทียบกับ ผลิตภัณฑ์ในประเภทความชื้นเดียวกัน แนวทาง ของ AAFCO สำหรับอาหารสุนัขและแมวที่มีคำว่า“ ลีน ” “ ไขมันต่ำ” หรือคำที่คล้ายกันแสดงอยู่ในตารางต่อไปนี้

 

เนื้อของอาหารปริมาณน้ำในอาหาร

ปริมาณไขมัน

ในอาหารสุนัข KCAL

ME / KG

ปริมาณไขมัน

ในอาหารแมวKCAL

ME / KG

อาหารเม็ดน้อยกว่า 20%

9

10

อาหารเปียก

ระหว่าง 20 และ 64%78
อาหารเปียกแบบบรรจุกระป๋อง65% หรือมากกว่า45

 

  • Puppy Basics: Expert Training Tips
    Puppy Basics: Expert Training Tips
    adp_description_block178
    เคล็ดลับการฝึกคำสั่งพื้นฐานให้ลูกสุนัข

    • แบ่งปัน

    'Q: เมื่อต้องฝึกลูกสุนัข สามารถให้อาหารของคนเป็นรางวัลได้หรือไม่?

    A: โดยส่วนตัวแล้ว ฉันจะไม่ใช้ขนมหรืออาหารในการฝึกเลย แต่จะใช้ภาษากายและการให้คำชมเป็นรางวัลในการฝึกแทน ซึ่งมันก็ได้ผลดีเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อสุนัขบางตัวไม่ได้สนใจหรือถูกดึงดูดใจด้วยอาหาร

     

    ถึงแม้คนส่วนมากมักจะใช้วิธีนี้และประสบความสำเร็จ แต่ฉันก็ไม่แนะนำวิธีนี้อยู่ดี การให้อาหาร (ของคน) เป็นรางวัล อาจทำให้สุนัขมีความคิดว่าพวกเค้าสามารถกินอาหารของคุณได้ ซึ่งมันอาจกระตุ้นให้พวกเค้าขโมยอาหารจากโต๊ะ หรือจากคนโดยเฉพาะเด็กๆ หรือแขกที่บ้านได้

     

    นอกจากนี้อาหารบางอย่างของคนก็เป็นพิษต่อสุนัข ตัวอย่างเช่นช็อกโกแลต, องุ่น, ลูกเกด, ถั่วแมคาเดเมียและไซลิทอล (สารให้ความหวานมักจะใช้ในหมากฝรั่ง, ขนม, และขนมอบ)

     

    แทนที่จะให้อาหารของคน คุณสามารถใช้ขนมสำหรับสุนัขแทนได้ โดยเลือกสูตรที่มีไขมันต่ำ ผลิตจากเนื้อสัตว์คุณภาพดี และเหมาะกับการฝึก ไม่ควรเลือกขนมที่เคี้ยวง่าย เพราะอาจจะมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง เวลาซื้อขนมให้พวกเค้า อย่าลืมอ่านฉลากเพื่อดูส่วนประกอบให้แน่ชัดซะก่อน

     

    ในระหว่างการฝึกระวังอย่าให้ขนมพวกเค้ามากจนเกินไป และไม่ควรให้ขนมแทนอาหารหลัก ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณแคลอรี่ที่พวกเค้าควรได้รับในแต่ละวัน

     

    ทั้งนี้ในการฝึกแต่ละครั้ง ไม่ควรใช้เวลานานแต่เน้นฝึกบ่อยครั้งแทน อย่างการฝึกลูกสุนัขแต่ละครั้งควรใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที

     

    และสุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ควรใช้การฝึกแบบเชิงบวก หากคุณเริ่มหงุดหงิดเพราะลูกสุนัขเริ่มไม่สนใจและไม่ยอมอยู่นิ่ง ให้หยุดพักก่อน พยายามให้การฝึกแต่ละครั้งจบแบบสนุกสนาน เพื่อกระตุ้นให้พวกเค้าอยากฝึกอีกในครั้งต่อไป

     

    คำแนะนำโดย Janet Tobiassen, สัตวแพทย์ในรัฐวอชิงตัน ที่ทำการศึกษาและเขียนบทความวิชาการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงตั้งแต่ปี 2542 โดยเธอเริ่มฝึกสุนัขตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยผ่านการฝึกจากชมรม 4-H รวมถึงได้เข้าฝึกอบรมเรื่องการบำบัดและการฝึกสัตว์เลี้ยงเมื่อตอนเรียนคณะสัตวแพทย์ศาสตร์'

    puppy-basics-expert-training-tips
Close modal