เนื้อไก่เป็นแหล่งโปรตีนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารสุนัขของ ไอแอมส์™ รวมถึง ไอแอมส์™ โปรแอคทีฟ เฮลท์™ สูตรสุนัขโต ด้วย เนื้อไก่ช่วยรักษาโครงสร้างกล้ามเนื้อของสุนัขและให้กรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมดต่อสัตว์กินเนื้อ เช่น สุนัข นอกจากนี้เนื้อไก่ยังเพิ่มรสชาติที่ดีอีกด้วย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรตีนคุณภาพดีที่ครบถ้วนและสมดุลจากเนื้อไก่ในอาหารสุนัข
ส่วนผสมเนื้อไก่ที่ใช้ในอาหารสุนัข
ส่วนประกอบเนื้อไก่ที่พบบ่อยในอาหารสุนัขประกอบด้วย เนื้อไก่ ผลิตภัณฑ์จากไก่และไขมันไก่:
• เนื้อและหนังไก่ไม่รวมถึงเครื่องในหรือขน
• ส่วนของไก่ประกอบด้วย เนื้อ หนังและกระดูกที่ได้รับการทำความสะอาด ทำให้แห้ง ปรุงสุกและบดละเอียด
• ผลิตภัณฑ์จากไก่คือ เนื้อ หนัง และเครื่องใน (รวมถึงลำไส้และกระดูก) ที่ได้รับการทำความสะอาด, ทำให้แห้ง,ปรุงสุก และบด
• ไขมันจากไก่เป็นแหล่งพลังงานคุณภาพสูง ให้กรดไขมันที่จำเป็น เช่น กรดไลโนเลอิก ที่สามารถช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังและขน
รสไก่ธรรมชาติ
อีกส่วนผสมหนึ่งจากไก่ที่ใช้กันทั่วไป คือรสไก่ธรรมชาติ หรือที่เรียกว่าผงรสไก่ ผงรสไก่ธรรมชาติเพิ่มความอร่อยและสารอาหาร เป็นโปรตีนและไขมันคุณภาพสูงที่ถูกลดระดับเป็นกรดอะมิโนและกรดไขมัน ที่ปรุงรสชาติผ่านกระบวนการย่อยของเอนไซม์
เครื่องในและกระดูกจากผลิตภัณฑ์จากไก่
เครื่องในอุดมไปด้วยแหล่งโปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก ที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของสุนัขและเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงกระดูกป่นบางชนิดที่ให้แร่ธาตุที่ดี เช่น แคลเซียม ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงบางราย กำหนดสูตรอาหารที่ไม่มีส่วนผสมดังกล่าว เพื่อดึงดูดเจ้าของสุนัขแทนที่จะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตาม ความต้องการทางโภชนาการของสุนัขนั้นไม่เหมือนกับความต้องการทางโภชนาการของมนุษย์
ความแตกต่างของ ไอแอมส์™
แหล่งโปรตีนจากไก่ในอาหารเม็ดของเราผ่านกระบวนการสกัดพิเศษ ผลิตภัณฑ์จากไก่ของเราเป็นแหล่งโปรตีนที่ครบถ้วนสมบูรณ์เพราะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสุนัขตามธรรมชาติ


ลูกสุนัขตัวเล็กพร้อมนำความสุขมาให้พวกเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าบ้าน และการดูแลพวกเค้าอย่างดีก็กลายเป็นนิสัยติดตัวของเรา เชื่อว่าเจ้าของหลาย ๆ คนอาจมีคำถามว่า “เราควรดูแลลูกสุนัขอย่างไรดี?” บอกได้เลยว่าการดูแลลูกสุนัขนั้นแสนง่ายดาย หากรู้วิธีที่ถูกต้อง ซึ่งไอแอมส์ได้รวบรวมคำตอบและเทคนิคดี ๆ อีกมากมายมาให้คุณแล้ว
เจ้าตัวน้อยสี่ขาต้องการอาหารที่ดีมีคุณภาพ และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพราะพวกเค้าช่างเปราะบาง มีโอกาสเจ็บป่วยและติดโรคร้ายได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีนิสัยชอบเคี้ยวสิ่งของต่าง ๆ จึงต้องคอยระมัดระวังไม่ให้กลืนสิ่งของอันตรายลงท้อง และควรจัดเตรียมของเล่นสำหรับกัดแทะไว้ให้พวกเค้าแทน
หากเลือกให้อาหารคุณภาพดีตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข พวกเค้าก็จะเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย การดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มันช่วยลดความเสี่ยงในการล้มป่วยและการมีปัญหาสุขภาพลง นอกจากนี้ควรพาน้องหมาไปออกกำลังกายเป็นประจำ หากไม่ได้ออกกำลังหรือไม่ทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเลย อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ ซึ่งทั้งสองข้อนี้คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืน
ตารางพัฒนาการนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยของเจ้าตัวน้อยที่แสนน่ารักได้ดียิ่งขึ้น:
พัฒนาการลูกสุนัข | 0-7 สัปดาห์ | 7-8 สัปดาห์ | 8-10 สัปดาห์ | 8-16 สัปดาห์ | 4-6 เดือน | 6-12 เดือน | 12-18 เดือน |
ลักษณะการเปลี่ยนแปลง | ลูกสุนัขเริ่มเรียนรู้พฤติกรรมทางสังคม เช่น การกัด การยอมจำนน การให้ความสนใจ และการโต้ตอบกับน้องหมาตัวอื่น | เป็นช่วงวัยที่ดีที่สุดในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเจ้าของ | ถือเป็นช่วงเวลาที่ลูกสุนัขอ่อนแอที่สุด อาจเรียกอีกอย่างว่า 'ช่วงเวลาแห่งความกลัว' เป็นการดีที่สุดหากช่วยให้ลูกสุนัขมีประสบการณ์เชิงบวก | สามารถเริ่มฝึกทักษะต่าง ๆ ได้แล้วในช่วงนี้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการลงโทษขณะฝึก | ลูกสุนัขจะมีความมั่นใจ และต้องการอิสระมากขึ้น | เป็นช่วงเวลาในการปลดปล่อยพลังงาน ควรจัดหากิจกรรมมาให้พวกเค้าทำแก้เบื่อด้วยนะ | เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยนี้ ลูกสุนัขจะเริ่มมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่มั่นคงขึ้น |
เริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานให้พวกเค้าได้แล้ว | ควรปลอบโยนเวลาที่พวกเค้ารู้สึกกลัวหรือเสียใจ | สามารถทำหมันได้เมื่อมีอายุ 6 เดือน | ควรเตรียมของเล่นที่หลากหลายไว้ให้พร้อม | ในช่วงนี้ น้องหมาจะพยายามขึ้นเป็นจ่าฝูง และพยายามยืนยันสถานะของตัวเอง |
การต้อนรับลูกสุนัขมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องจัดการหลังพาพวกเค้าเข้าบ้านแล้ว และนี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้การดูแลนั้นง่ายขึ้น: