IAMS TH
Tips for Feeding Your Senior Cat
Tips for Feeding Your Senior Cat

adp_description_block410
คู่มือการให้อาหารน้องแมวสูงวัย

  • แบ่งปัน

เป็นที่รู้กันดีว่าแมวมีความเป็นตัวของตัวเองสูงและมีความสง่างามชวนให้หลงใหล เจ้าเหมียวขนฟูเหล่านี้มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 12 – 18 ปี แมวที่มีอายุมากกว่า 3 ปีจะถือว่าเป็นแมวโตเต็มวัย และเมื่อมีอายุ 11 ปีขึ้นไปก็จะเข้าสู่ช่วงสูงวัย
 

พฤติกรรมหรือนิสัยการกินของแมวจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ อย่างลูกแมวต้องการปริมาณอาหารมากกว่าเพื่อน เนื่องจากพวกเค้าต้องการพลังงานสูงและอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต แมวโตเต็มวัยต้องการอาหารในปริมาณปานกลางเพื่อให้มีพลังงานเพียงพอต่อการทำกิจกรรมตลอดวัน ส่วนแมวสูงอายุมักจะมีความอยากอาหารน้อยลง เจ้าของจึงอาจต้องปรับเปลี่ยนสูตรอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของพวกเค้า หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้อาหารแมวสูงวัย มาติดตามบทความนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
 

ทำไมผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจกับการให้อาหารแมวสูงวัยมากเป็นพิเศษ?

พฤติกรรมการกินส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของแมวสูงวัย เจ้าของควรดูแลเอาใจใส่เกี่ยวกับโภชนาการกันให้มากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าน้องแมวจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม
 

ผู้เลี้ยงควรทำความเข้าใจก่อนว่าแมวแต่ละช่วงวัยมีความต้องการทางโภชนาการแตกต่างกัน ลูกแมวควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เหมาะสม แมวโตเต็มวัยควรได้รับการดูแลอย่างใส่ใจเพื่อป้องกันปัญหาน้ำหนักตัวเกิน และแมวสูงวัยควรได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง อาหารของพวกเค้าควรประกอบด้วยโปรตีนคุณภาพสูงและวิตามินอีเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ
 

เมื่อน้องแมวมีอายุมากขึ้น การรับรสและการดมกลิ่นก็จะเสื่อมลง นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อปัญหาฟันเสื่อมสภาพซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการเคี้ยวอาหารด้วย เจ้าของสามารถทำตามคำแนะนำในการเลือกอาหารต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้น้องแมวกินอาหารได้ดียิ่งขึ้น

  • เลือกอาหารที่มีชิ้นเล็ก
  • เลือกอาหารที่มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย
  • เลือกอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติของอาหาร

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการให้อาหารแมวสูงวัย

เนื่องจากแมวสูงวัยมีความอยากอาหารน้อยลง เจ้าของจึงต้องเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเพื่อให้แน่ใจว่าน้องแมวจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน หรืออาจทำตามเคล็ดลับเหล่านี้เพิ่มเติมด้วยก็ได้

  1. ให้อาหารน้อยลงแต่บ่อยขึ้น –

แม้ว่าน้องแมวสูงวัยจะอยากอาหารน้อยลง แต่พวกเค้ายังคงต้องการสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนหรือวิตามินที่จำเป็น สำหรับแมวสูงวัยที่มีสุขภาพแข็งแรง อาจให้อาหาร 3 – 4 ครั้งต่อวัน แต่หากพวกเค้ามีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร ควรให้อาหารอย่างน้อย 10 – 12 ครั้งต่อ

  1. เสิร์ฟอาหารอุณหภูมิห้อง –

แทนที่จะเสิร์ฟอาหารร้อนหรือเย็นเกินไป เจ้าของควรเสิร์ฟอาหารในอุณหภูมิห้องปกติ เนื่องจากประสาทสัมผัสของแมวสูงวัยไม่ได้ดีดังเดิม อาหารอุณหภูมิห้องจะช่วยให้พวกเค้ารับรสและกลิ่นของอาหารได้ดีขึ้น

  1. เลือกอาหารที่มีคุณภาพดี –

อาหารของแมวสูงวัยควรย่อยง่ายและมีสารอาหารที่สำคัญครบถ้วน เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุ
 

ช่วงวัยเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกอาหาร รวมถึงสภาวะสุขภาพ น้ำหนัก ความอยากอาหาร และรูปแบบการใช้ชีวิตของแมวด้วย แนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อทำความเข้าใจข้อกำหนดด้านสุขภาพ การขาดสารอาหาร และโรคประจำตัวก่อนเลือกอาหารให้กับพวกเค้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการให้อาหารน้องแมวสูงวัย

  1. ควรให้อาหารแมวสูงวัยในปริมาณเท่าใด?
  2. แมวสูงวัยส่วนใหญ่ต้องการพลังงานประมาณ 280 – 360 แคลอรี่ต่อวัน แนะนำให้เลือกอาหารคุณภาพดี โดยพิจารณาจากน้ำหนัก สภาวะสุขภาพ และสารอาหารที่ต้องการ

  3. ควรให้อาหารแมวสูงวัยบ่อยแค่ไหน?
  4. ควรให้อาหารแมวสูงวัยในปริมาณเล็กน้อยแต่ให้บ่อยขึ้น อย่างน้อย 3 – 4 ครั้งต่อวัน หากพวกเค้ามีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร คุณควรให้อาหารปริมาณที่น้อยลงและแบ่งมื้ออาหารออกเป็น 10 – 12 ครั้งต่อวัน

  5. ควรเลือกสูตรอาหารสำหรับแมวสูงวัยโดยเฉพาะใช่หรือไม่?
  6. ใช่ คุณควรเลือกอาหารสูตรสำหรับแมวสูงวัยโดยเฉพาะ เนื่องจากได้รับการคิดค้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการของแมวในช่วงวัยนี้

  7. อาหารสูตรสำหรับแมวสูงวัยมีข้อดีอย่างไร?
  8. ข้อดีของอาหารสำหรับแมวสูงวัยมีดังต่อไปนี้

    • มีสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
    • มีไฟเบอร์สูงเพื่อเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร
    • มีวิตามินเพิ่มมากขึ้นเพื่อเสริมข้อต่อและกระดูกให้แข็งแรง

  9. แมวเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่อมีอายุเท่าไหร่?
  10. แมวที่มีอายุมากกว่า 11 ปีถือเป็นแมวสูงวัย

  • cat article
    cat article
    adp_description_block279
    วิธีดูแลลูกแมวแรกเกิด

    • แบ่งปัน

    ลูกแมวตัวน้อยเต็มไปด้วยความน่ารัก และเหมาะสำหรับการเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านที่สุด แม้ว่าการมีลูกแมวจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เจ้าของควรทำความเข้าใจความต้องการที่แตกต่างไปตามช่วงวัย และวิธีการดูแลเจ้าตัวน้อยอย่างถูกวิธีด้วย สำหรับทาสแมวมือใหม่อาจเกิดข้อสงสัยว่า “แล้ววิธีการดูแลลูกแมวที่ถูกต้องเป็นอย่างไรกัน?” ซึ่งไอแอมส์ได้รวบรวมคำตอบและเทคนิคดี ๆ อีกมากมายมาให้แล้ว รับรองเลยว่าการดูแลลูกแมวแรกเกิดจะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณเลยหล่ะ

     

    อะไรคือเหตุผลที่การดูแลลูกแมวมีความสำคัญมาก?

    การดูแลลูกแมวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเค้าจะเติบโตมาอย่างแข็งแรง ในช่วงวัยนี้พวกเค้ายังต้องปรับตัวและทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ การอยู่เคียงข้างพวกเค้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก

     

    อะไรคือความหมายที่แท้จริงของการเลี้ยงดูลูกแมวให้เติบโต?

    ลูกแมวตัวน้อยกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตั้งแต่วันแรกที่คุณพาพวกเค้าเข้าบ้าน แม้การเลี้ยงดูลูกแมวอาจเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับทาสแมวมือใหม่ แต่มันก็มีช่วงเวลาที่สนุกสนาน ซึ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคุณและเจ้าตัวน้อยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นได้

     

    อะไรคือสิ่งสำคัญในการดูแลลูกแมวตัวน้อย?

    สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลลูกแมวประกอบไปด้วยปัจจัยเหล่านี้:

    • การดูแลความสะอาด:

      การรักษาความสะอาดถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรทำความสะอาดเบาะนอน หรือพื้นที่ที่ลูกแมวอยู่เป็นประจำ
    • การให้อาหารคุณภาพดี:

      ลูกแมวต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการอย่างเหมาะสม เราขอแนะนำอาหารแมวจากไอแอมส์™ ที่ได้รับการพัฒนาสูตรโดยสัตวแพทย์ และผลิตจากเนื้อไก่คุณภาพดี การเลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพ จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสมอง และเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
    • การตรวจสุขภาพเป็นประจำ:

      ควรพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อติดตามพัฒนาการและความประพฤติกรรมของลูกแมวอย่างใกล้ชิด
    • การทำความสะอาดขน:

      ควรฝึกพวกเค้าให้คุ้นเคยกับการทำความสะอาดขนตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว โดยเฉพาะน้องแมวขนยาว

    ตามติดพัฒนาการของลูกแมวในแต่ละช่วงวัย

    สำหรับทาสแมวมือใหม่ คุณอาจไม่ทันสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัยของเจ้าตัวน้อย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะคุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากตารางต่อไปนี้:

    พัฒนาการลูกแมว0-2 สัปดาห์ (ช่วงแรกเกิด)2-7 สัปดาห์ (ช่วงเข้าสังคม)7-14 สัปดาห์ (ช่วงนักสำรวจ)3-6 เดือน (ช่วงเรียนรู้ความสำคัญ)6-18 เดือน (ช่วงวัยรุ่น)
    ลักษณะการเปลี่ยนแปลงเริ่มเคลื่อนไหวเข้าหาเสียงต่าง ๆเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมเป็นช่วงวัยที่ลูกแมวกระตือรือร้นมากที่สุดเป็นช่วงวัยที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากแม่แมวหรือพี่น้องในครอกเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงวัยนี้
     ตาของลูกแมวจะเปิดในช่วงนี้ประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นและการได้ยินพัฒนาอย่างเต็มที่ในสัปดาห์ที่ 4เริ่มแสดงความรักผ่านการกอดและการเลียเริ่มทำความเข้าใจและจัดลำดับความสำคัญของผู้คนรอบตัวหากยังไม่ทำหมัน จะเริ่มแสดงพฤติกรรมทางเพศ
     หากลูกแมวถูกแยกออกจากแม่หรือพี่น้อง อาจมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวกับผู้คนและแมวตัวอื่น ๆการมองเห็นพัฒนาอย่างเต็มที่ในสัปดาห์ที่ 5 และสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วสามารถใช้อุ้งเท้า ปาก ในการจับสิ่งของได้ดีขึ้น  
      เริ่มเลียขนทำความสะอาดตัวเองเริ่มเล่นไล่งับหางตัวเอง และกระโจนไปมา  
      เริ่มพัฒนานิสัยการนอน การเคลื่อนไหว และการโต้ตอบกับ   
      สิ่งต่าง ๆ รอบตัว   

    เตรียมความพร้อมให้กับเจ้าลูกแมวตัวน้อย

    • ควรดูแลลูกแมวในแต่ละช่วงวัยอย่างไร?

      การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการดูแลลูกแมวคือการเปลี่ยนอาหาร แมวต้องการสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและเพื่อมีสุขภาพที่ดี ทาสแมวควรเลือกอาหารคุณภาพดี เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนจากการให้อาหารสูตรลูกแมวมาเป็นสูตรแมวโตเต็มวัย
    • ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากลูกแมวไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม:

      หากลูกแมวถูกละเลย และขาดการดูแลเอาใจใส่ที่ดี พวกเค้าอาจเกิดภาวะซึมเศร้า และมีร่างกายอ่อนแอ รวมถึงมีโอกาสติดเชื้อโรคร้ายสูง หากไม่ได้รับการดูแลความสะอาด
    • มีวิธีการป้องกันอะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้กับลูกแมวได้?

      ในช่วงวัยลูกแมว ควรพาพวกเค้าไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ และหมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติอย่างใกล้ชิด
    • เคล็ดลับการดูแลสำหรับทาสแมวมือใหม่

      ตามมาดูเคล็ดลับดี ๆ ที่ทาสแมวมือใหม่ควรรู้กัน :
      • หลังต้อนรับลูกแมวเข้าบ้านแล้ว ควรฝึกให้ใช้กระบะทรายทันที
      • ให้เวลาพวกเค้าทำความคุ้นเคยกับพื้นที่ส่วนตัว
      • หากลูกแมวเริ่มมีพฤติกรรมงับมือ ให้พูดอย่างจริงจังว่า “ไม่” เพื่อให้พวกเค้ารู้ว่านี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำ
      • ให้รางวัลลูกแมวทุกครั้งเมื่อพวกเค้าเชื่อฟังคำสั่ง เป็นการปลูกฝังนิสัยที่ดีให้กับพวกเค้า

Close modal