แมวเป็นสัตว์ที่ชอบทำอะไรเป็นนิสัยและมักจะต่อต้านเมื่ออาหารถูกเปลี่ยน อันดับแรกต้องหยุดให้เศษอาหารจากโต๊ะโดยทันที ซึ่งทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น นำแมวออกจากบริเวณที่คุณกินอาหาร เมื่อเปลี่ยนอาหารแล้วต้องใจแข็ง แมวของคุณอาจไม่ยอมกินอาหารเป็นเวลาหลายมื้อกว่าจะหันมาลองกินอาหารเม็ด
การนำอาหารเม็ดไปอุ่นด้วยไมโครเวฟก็ช่วยเพิ่มกลิ่นและความน่าทานได้เช่นกัน อีกวิธีคือ ให้ผสมอาหารเปียกกับอาหารเม็ด หรือเพิ่มน้ำซอสสำหรับสัตวเลี้ยงโดยเฉพาะ แล้วอย่าลืมให้เค้ากินอาหารเพียงพอกับพลังงานในแต่ละวันและตรวจดูว่าเค้ากินอาหารจริง ๆ ยกเว้นในกรณีที่เค้ามีปัญหาสุขภาพแอบแฝงอยู่
ปกติแล้วอุจจาระแมวควรเป็นก้อนเล็กและนิ่ม อาการท้องผูกในแมวส่วนใหญ่อาจเป็นอาการชั่วคราวและมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป อุจจาระเหลวก็เช่นเดียวกันคือ เป็นเพียงชั่วคราวและมีสาเหตุมาจากอาหาร หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงฉับพลัน การกินอาหารมากเกินไป ปรสิต อาการเจ็บป่วย การกินอาหารเหลือจากโต๊ะ ติดเชื้อแบคทีเรีย หรือความเครียด
หากอาการท้องผูก หรืออุจจาระเหลวไม่หายไป คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์
ในท้องตลาดมีอาหารลูกแมวที่ใช้วัตถุดิบแตกต่างกันให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก คุณจึงควรทราบว่า วัตถุดิบใดที่จำเป็นกับลูกแมวบ้าง คุณอาจเคยเห็นเมล็ดแฟลกซ์ในรายชื่อวัตถุดิบอาหารแมวชนิดเปียกมาบ้าง แล้วเมล็ดแฟลกซ์ในฐานะแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 จำเป็นต่อลูกแมวหรือไม่
มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเมล็ดแฟลกซ์และผลกระทบต่อสุขภาพลูกแมวกันดีกว่า
เมล็ดแฟลกซ์คือ เมล็ดของต้นแฟลกซ์ที่นำมาบด น้ำมันในต้นแฟลกซ์เป็นแหล่งของกรดโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิก ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิดอื่น
ในอาหารแมว เมล็ดแฟลกซ์มีหน้าที่ให้กรดไขมันโอเมก้า-3 เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอเมก้า-3 กับโอเมก้า-6 ในอาหาร ผลวิจัยจากไอแอมส์เผยให้เห็นว่าปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 ที่สมดุลกันจะช่วยสร้างสุขภาพขนและผิวหนังที่ดี
การใส่กรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างกรดอัลฟาไลโนเลนิกลงในอาหารลูกแมวมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
กรดอัลฟาไลโนเลนิกอาจเป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีความสำคัญ แต่ต้องใช้เวลาหลายรุ่นกว่าอาการขาดสารอาหารในแมวจะปรากฏ เมื่อเลือกอาหารให้แมว อย่าลืมว่า เมล็ดแฟลกซ์ช่วยบำรุงสุขภาพลูกแมวในช่วงการเติบโตและพัฒนาการรวดเร็วได้