IAMS TH
cat-articcat article detail bannerle-detail-banner

cat-articcat article detail bannerle-detail-banner


adp_description_block361
ความหมายของคำประกาศ AAFCO

  • แบ่งปัน

AAFCO คืออะไร

 

สมาคมควบคุมอาหารสัตว์เลี้ยงแห่งอเมริกา (Association of American Feed Control Officials: AAFCO) ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 เพื่อกำหนดมาตรฐานข้อบังคับในอุตสาหกรรมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แม้ AAFCO จะไม่ใช่หน่วยงานรัฐบาล แต่ก็เป็นองค์กรที่ปฏิบัติงานสอดคล้องกับกฎหมายของรัฐบาลกลางและกฎหมายประจำรัฐต่าง ๆ รวมถึงกฎหมายที่บังคับใช้โดยองค์การอาหารและยา (FDA) และกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA)

 

AAFCO มีหน้าที่อะไร

 

AAFCO เป็นหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐาน หรือขอบเขตของข้อบังคับต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ผลิตระบุข้อมูลที่ชัดเจน ถูกต้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกันเกี่ยวกับการใช้อาหารสัตว์รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยงด้วย

ทุก ๆ ปี AAFCO จะเผยแพร่หนังสือชื่อว่า คู่มือ AAFCO (AAFCO Manual) โดยคู่มือฉบับนี้ได้ระบุความหมายของวัตถุดิบและคำศัพท์ในการให้อาหารต่าง ๆ อธิบายปัญหาข้อสรุปของปัญหาการเขียนฉลากต่าง ๆ   เช่น รูปแบบของฉลาก รายชื่อวัตถุดิบ คำกล่าวอ้างด้านโภชนาการ และบทวิเคราะห์ที่การันตี เป็นต้น

ข้อบังคับนี้แตกต่างจากกฎหมาย อย่างไรก็ดี รัฐบาลประจำรัฐหลายแห่งได้นำเอาระเบียบบังคับอาหารสัตว์เลี้ยงของ AAFCO มาบังคับใช้เป็นกฎหมายประจำรัฐ

 

คำประกาศ AAFCO คืออะไร

 

“คำประกาศ AAFCO ว่าด้วยความพอเพียงหรือจุดประสงค์ด้านโภชนาการ” หรือ “คำกล่าวอ้างโภชนาการ” หรือ “คำกล่าวอ้างความครบถ้วนและสมดุล” ระบุว่าผลิตภัณฑ์ได้รับอนุญาตให้ใช้กับช่วงวัย/ไลฟ์สไตล์ใด ผู้ผลิตอาหารต้องผ่านการขอคำรับรองภายใต้ข้อบังคับของ AAFCO จึงจะสามารถระบุคำประกาศนี้ได้

AAFCO กำหนดขั้นตอนการคำรับรองเพื่อใช้คำกล่าวอ้างไว้ 3 วิธี ได้แก่

 

วิเคราะห์โดยห้องปฏิบัติการ

 

ทำการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปกับคุณค่าทางโภชนาการขั้นต่ำ ที่ระบุไว้ในหลักโภชนาการสำหรับสุนัขและแมวของ AAFCO (AAFCO Nutrient Profiles)

ฉลากจะระบุว่า “อาหารสุนัข (แมว) ABC ผ่านการคิดค้นสูตรโดยมีระดับสารอาหารเป็นไปตามหลักโภชนาการของสุนัข (แมว) ของ AAFCO สำหรับ (ช่วงวัยที่เหมาะสม)”

 

ทดลองให้อาหาร

 

ทดสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในห้องปฏิบัติการโดยทดลองให้สุนัข หรือแมวกินตามกระบวนการของ AAFCO

ฉลากจะระบุว่า “การทดสอบให้อาหารสัตว์ตามกระบวนการของ AAFCO รับรองว่าอาหารสุนัข (แมว) ABC ให้สารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลสำหรับ (ช่วงวัยที่เหมาะสม)”

 

วิเคราะห์เปรียบเทียบความพอเพียงด้านโภชนาการ

 

เปรียบเทียบผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปกับคุณค่าสารอาหารจากผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันซึ่งให้สุนัขและแมวกินตามกระบวนการของ AAFCO

ฉลากจะระบุว่า “อาหารสุนัข (แมว) ABC ให้สารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลสำหรับ (ช่วงวัยที่เหมาะสม) และมีความเพียงพอด้านโภชนาการใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ มีคำรับรองจากการทดสอบให้อาหารสัตว์ของ AAFCO”

 

กระบวนการให้อาหารของ AAFCO คืออะไร 

 

AAAFCO ได้กำหนดกระบวนการ หรือคำแนะนำในการดำเนินการทดสอบให้อาหารสัตว์ไว้อย่างชัดเจน โดยกระบวนการจะกำหนดเกณฑ์การทดสอบต่าง ๆ ไว้ เช่น

  • จำนวนสัตว์ขั้นต่ำ
  • ระยะเวลาการทดสอบ
  • การตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์
  • การเฝ้าสังเกตและการตรวจวัดทางคลินิก อันได้แก่ น้ำหนักตัว ตรวจเลือด และระดับทอรีนในเลือดสำหรับแมว เป็นต้น

 

แต่ละช่วงวัยมีเกณฑ์เฉพาะตัว โดยช่วงวัยของสุนัขและแมวนั้นเหมือนกันซึ่งระบุไว้ดังนี้

  • การดูแลช่วงโตเต็มวัย
  • พัฒนาการ
  • ตั้งครรภ์/ให้นม
  • ทุกช่วงวัย

 

“ทุกช่วงวัย” หมายความว่าอะไร

 

อาหารสัตว์เลี้ยงที่ระบุว่า “ทุกช่วงวัย” สามารถใช้กับสัตว์ตั้งแต่ช่วงหย่านมไปจนถึงช่วงโตเต็มวัย คำกล่าวอ้างนี้ ถือเป็นมีความพอเพียงด้านโภชนาการอย่าง (สมบูรณ์) เด็ดขาด ในกรณีที่ผ่านการรับรองจากการทดสอบให้อาหาร ต้องทดสอบในสัตว์ที่ตั้งครรภ์/ให้นมลูก และที่ยังมีพัฒนาอยู่ด้วยตามลำดับโดยต้องเป็นสัตว์กลุ่มเดียวัน

 

“สำหรับบริโภคชั่วคราว” หมายความว่าอะไร

 

ระเบียบ AAFCO มีการบังคับการใช้คำหรับอาหารที่ผลิตขึ้นตามความต้องการพิเศษซึ่งจำเป็นต้องมีสัตวแพทย์คอยวินิจฉัย จัดการ และติดตามผล

 

สรุป

 

การทำความเข้าใจกับคำประกาศ AAFCO ว่าด้วยความเพียงพอด้านโภชนาการจะช่วยให้ลูกค้าได้รับอาหารคุณภาพสูงที่มีสารอาหารครบถ้วนและสมดุล ทั้งยังเหมาะกับช่วงวัยที่กำหนดสำหรับสุนัขและแมว

 

  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในแมว
    การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในแมว
    adp_description_block54
    การฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและการดูแล

    • แบ่งปัน

    โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านการถูกกัดและข่วนโดยสัตว์ที่ติดเชื้อ เนื่องจากไม่มียาในการรักษา ทางออกเดียวที่จะต่อสู้กับไวรัสร้ายแรงนี้คือการฉีดวัคซีนป้องกัน

     

    วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นหนึ่งในวัคซีนหลักสำหรับแมว มันช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยให้แมวมีความเป็นอยู่ที่ดี แต่ก่อนจะพาเจ้าเหมียวไปฉีดวัคซีน เรามาทำความเข้าใจรายละเอียดของโรคและวิธีป้องกันไปด้วยกันในบทความนี้
     

    โรคพิษสุนัขบ้าแพร่กระจายได้อย่างไร?

    โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ ซึ่งติดต่อได้ทั้งในสัตว์และคน ไม่ใช่แค่สุนัขอย่างที่เข้าใจผิดกัน เชื้อชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลเปิด ผ่านเยื่อเมือกในตา ปาก และจมูก รวมถึงแพร่กระจายผ่านการสัมผัสน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อด้วย โดยแมวส่วนใหญ่จะแสดงอาการภายในเวลาไม่กี่วันหรืออาจใช้เวลานานถึงสองสามปีหลังได้รับเชื้อ
     

    เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรง พ่อแม่แมวจึงควรเรียนรู้สัญญาณเตือนและลักษณะอาการของโรคให้ดี ซึ่งอาการที่พบได้มีดังนี้

    1. มีไข้

    2. เซื่องซึม

    3. ความอยากอาหารลดลง

    4. หายใจลำบาก

    5. น้ำลายไหลมาก

    6. กลืนลำบาก

    7. พฤติกรรมผิดปกติ

    การรักษาโรคพิษสุนัขบ้าอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่มียารักษา การฉีดวัคซีนป้องกันจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าแมวของคุณจะปลอดภัยจากโรคร้ายนี้
     

    แมวที่เลี้ยงในบ้านจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่?

    วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแมวทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพราะแมวมักจะเข้าสังคมด้วยการเลีย ดม หรือเกาตัวให้กัน แมวในบ้านจึงยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ การฉีดวัคซีนป้องกันถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่ลูกแมวจะติดเชื้อ วัคซีนจะกระตุ้นการสร้างแอนติเจนในร่างกาย ทำให้แมวสามารถรับมือกับไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าได้
     

    แมวควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าบ่อยแค่ไหน?

    การฉีดวัคซีนจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สายพันธุ์ และไลฟ์สไตล์ของลูกแมว รวมถึงประเภทของวัคซีนด้วย วัคซีนบางชนิดก็ต้องฉีดทุกปี บางชนิดอาจฉีดทุก ๆ 3 ปี โดยคุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับตารางการฉีดวัคซีนของแมวเพิ่มเติมได้

     

    แมวควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อใด?

    ลูกแมวควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกเมื่อมีอายุ 12 สัปดาห์ หลังจากฉีดวัคซีนครั้งแรก ต้องฉีดวัคซีนทุกปีหรือทุก ๆ 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของวัคซีน
     

    ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

    หลังจากการฉีดวัคซีน น้องแมวอาจมีอาการผิดปกติเล็กน้อย โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้มีดังนี้

    1. มีไข้ต่ำ

    2. เซื่องซึม

    3. ความอยากอาหารลดลง

    4. มีอาการบวมหรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด

    นอกจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว พ่อแม่แมวควรพาเจ้าเหมียวไปฉีดวัคซีนหลักอื่น ๆ ด้วย เช่น วัคซีนรวม F4 วัคซีนรวม FeVac 5 และวัคซีน FVRCP การฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้ลูกแมวของคุณมีสุขภาพที่ดี